ดูเงียบๆทั้งที่ร้านและเว็บ คงจะเป็นเพราะเปิดเทอมนี่แหละที่ทุกคน
ต้องกลับเข้ามาสู่ชีวิตจริงทั้งภาระหน้าที่การงานหลังจากหยุดยาว
และพ้นจากช่วงเทศกาลวันหยุด ท่องเที่ยว วันฉลอง เลี้ยงรุ่น
มาสู่ความเป็นจริงในชีวิตที่ต้องเจอลูกศิษย์ เพื่อนร่วมงาน
โครงการ และอะไรต่างๆที่รอรับอยู่ข้างหน้า
สำหรับผมแล้วไม่มีวันหยุดเลยครับ ทุกวันต้องตื่นตี5ครึ่งเข้านอน
3ทุุ่ม4ทุ่ม เป็นอย่างนี้ทุกวัน
เพียงแต่เป็นงานเบาที่อยู่ในกรอบในวิถีที่ต้องทำจนเป็นชีวิตประ
จำวันไปแล้ว ช่วงนี้ลูกอยู่บ้านก็มีโอกาสไปห้องสมุดบ้างเปลี่ยน
บรรยากาศแค่นั้นเอง
ผมว่าจากช่วงวัยที่หนองบอนเป็นช่วงเวลาที่สุดของชีวิตแล้ว
และพออายุ60ก็เริ่มนับถอยหลังกันแล้วละครับ เรื่องสุขภาพ
จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อไม่ให้เป็นภาระของคนรอบข้าง
ตอนนี้ผมมักพูดถึงวัยสูงอายุบ่อยเพราะอยู่ท่ามกลางผู้สูงอายุ
ก็เลยคาดเดาได้ว่า เมื่อถึงเวลาจะเจอกับอะไรบ้าง
เสียดายนะครับเมืองไทยในอดีตที่เป็นครอบครัวใหญ่อยู่
รวมกันหลายคนแม้จะมากเรื่องแต่ก็อบอุ่นด้วยพี่น้อง
ลูกหลานทำให้เราไม่โดดเดี่ยวในยามรา
แต่สังคมไทยกับเดินไปติดกัยกังเงินตราวัตถุในระยอบทุนนิยม
เปลี่ยนจากครอบครัวใหญ่เป็นครอบครัวเดี่ยว เมื่อลูกต้องไป
มีครอบครัวหรือทำงานก็ทิ้งให้พ่อแม่อยู่โดดเดี่ยว
ผมเคยว่าเพื่อนผมคนหนึ่งว่า มึงมีลูกอยู่คนเดียวเสือกผลักใส
ให้ไปอยู่เมืองนอก แล้วแก่ๆจะทำอย่างไรวะ
ความคิดนี้ดูเหมือนจะเห็นแก่ตัว แต่สังคมไทยสอนเรื่อง
ความกตัญญูกตเวทีและหน้าที่ของลูกคือตอบแทนบุญ
คุญพ่อแม่และเลี้ยงดูท่านในยามชรา
เรามองข้ามพ่อแม่ไปเรียกร้องให้ออกกฎหมายคุ้มครองหมา
และเรียกร้องให้บริจาคเงินช่วยชาวเนปาล หรือบางคน
เรียกร้องมนุษยธรรมแก่ผู้อพยพ และอื่นๆทุกวัน
แต่เรานึกถึงพ่อแม่(บนเฟ้ซบุ้ค)ในวันพ่อและวันแม่ปีละ
2 วันแค่นั้นหรือ