ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี รับช่อดอกไม้จากกลุ่มมวลชนต่อต้านรัฐบาล
แกนนำมวลชนเสื้อหลากสีกว่า 2,000 คน มาชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดจันทบุรีเพื่อต่อต้านการบริหารงานของรัฐบาล
วันนี้ ( 29 พ.ย. 56) ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรี กลุ่มมวลชนชาวจังหวัดจันทบุรีต่อต้านคนโกง นำโดยนายแสนคม อานามพงษ์ นักธุรกิจและผู้ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์จังหวัดจันทบุรี เป็นแกนนำมวลชนเสื้อหลากสี ประกอบด้วย เกษตรกร นักธุรกิจ ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาและประชาชน จำนวนมากกว่า 2,000 คน เดินถือธงชาติไทยเป่านกหวีดเคลื่อนขบวน ไปตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี มุ่งหน้าสู่ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี ซึ่งบริเวณประตูด้านหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรีได้มีกลุ่มเสื้อแดงจำนวนประมาณ 30 คน มาปิดกั้นประตูทางเข้า-ออกศาลากลางไว้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. พร้อมกับได้ใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวสนับสนุนรัฐบาล และกล่าวโจมตีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี จำนวน 3 กองร้อย พร้อมด้วยกำลัง อส. คอยยืนเฝ้าดูแลรักษาความสงบบริเวณหน้าศาลากลางและปิดทางเข้าออกศาลากลางทุกด้าน ป้องกันการปะทะและป้องกันทรัพย์สินของทางราชการ เมื่อกลุ่มมวลชนมาถึงภายในบริเวณศาลากลางจังหวัดจันทบุรี และได้เรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีลงมาพบกับกลุ่มมวลชน นายเกรียงเดช เข็มทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายสมหมาย วิเชียรฉันท์ และนาย กล้าณรงค์ พงษ์เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ลงมารับช่อดอกไม้และนกหวีดจากแกนนำผู้ชุมนุม หลังจากนั้นแกนนำมวลชน ได้อ่านแถลงการณ์ ซึ่งมีเนื้อหาโจมตีรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง สส. และ สว. ฝ่ายที่สนับสนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยกล่าวว่ารัฐบาลชุดนี้หมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศแล้วตั้งแต่การออกมาคัดค้านคำติดสินของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมกับขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีอนุญาตให้ข้าราชการที่ปฏิบัติงานอยู่บนศาลากลางหยุดงานในวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ โดยให้เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรียอมรับข้อเสนอให้ข้าราชการหยุดงานได้ครึ่งวันในวันนี้ ส่วนข้อเสนอให้ข้าราชการหยุดงานทุกวันศุกร์จะขอนำไปประชุมหารือกันต่อไป อย่างไรก็ดี แกนนำได้ประกาศว่ามวลชนทั้งหมดจะยังรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรีต่อไปจนถึงตอนเย็นวันนี้ หลังจากที่ได้ร่วมกันร้องเพลงชาติ ณ บริเวณหน้าเสาธงที่สูงที่สุดในประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรีในเวลา 18.00 น. แล้ว จากนั้นจึงจะทยอยกันแยกย้ายกลับบ้านต่อไป
