บทความนี้เอามาอ้างอิงในข้อแก้ตัวของผมว่า ทำไมผมถ่ายภาพไม่ชัด
พูดเล่นๆ แต่ให้อ่านจริงๆ (กรู)อุสาห์ค้นและก้อปมานะเฟ้ยย
บทความ คิดก่อนถ่ายตอนพิเศษตอนที่ 2
26 กย. 56
Out of the rules. ทำไมเราต้องทำตามกฏ
ปัญหาต่อระบบความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ส่วนใหญ่เกิดจากการกระทำในสิ่งที่คล้าย ๆ กันเสมอ ดูแล้วง่ายดี ไม่ต้องเปลืองสมองคิด
เพราะเราถูกสอนมาให้อยู่กับคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียวมาตลอดตั้งแต่เด็ก
เช่น ข้อสอบที่ถามว่า ข้อใดถูกต้องที่สุด และมักจะมีคำตอบข้อเดียวเสมอ
การเรียนการสอนศิลปะส่วนใหญ่มักจะเปิดกว้างให้กับคำตอบมากขึ้น การเติมคำตอบที่เป็นข้อเขียน จึงทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้มากกว่า
นั่นคือประเด็นเล็ก ๆ ที่เริ่มต้นทำให้เราไม่อาจดึงตัวเราออกจากกฏหรือข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียวเสมอ ๆ
ผมชอบตัวอย่างง่าย ๆ ที่อธิบายได้ดีคือ เราถามนักเรียนมัธยมว่าครึ่งหนึ่งของ 8 คืออะไร? เราจะได้คำตอบว่า "สี่" หมดห้องแน่นอน
แต่สำหรับเด็กอนุบาลเราอาจจะได้ยินคำตอบเช่นคำว่า "ศูนย์" หรือ "สาม" ขึ้นมาก็ได้...ขึ้นอยู่กับว่าจะหั่นครึ่งแนวนอนหรือแนวตั้ง
เมื่อคำตอบมันมากกว่า 1 ข้อ มันหมายถึงมันมีจินตนาการออกไป... ฃองกลับมาไร้สาระกันบ้าง คิดแบบเด็กอนุบาลกันสักหน่อย..
การถ่ายภาพก็เช่นกัน หากเราอ้างว่า ประเทศไทยไม่มีโรงเรียนสอนถ่ายภาพที่ต่อเนื่องและระดับสูงขึ้น ๆ ไปจนเป็นมืออาชีพ คนเก่งระดับเทพก็ไม่มาเข้าฝันสักที
..จริงหรือ..ที่เรามัวแต่นั่งท้อกับตัวเองจนไม่ทำอะไรเลยจนกลายเป็นคนขี้แพ้ คนขี้เกียจ ไม่กล้าที่จะคิดด้วยตนเอง
ผมฟันธง ความคิดสร้างสรรค์ไม่ต้องเรียนก็ได้ ไม่ต้องมีพรสวรรค์ก็ได้ พรแสวงสิดีที่สุด หากคุณเรียนรู้สม่ำเสมอ ทดลองและฝึกฝนอย่างเป็นระบบ
เรียกได้ว่า ยิ่งได้รับอิทธิพลจากผลงานภาพถ่ายคนอื่นมากเท่าไร เราต้องยิ่งทดลองถ่ายภาพให้มากขึ้นเท่านั้น
เพราะเราจะเริ่มจากทดลองถ่ายภาพให้เหมือนคนอื่นก่อนมันเป็นอัตโนมัติ หลายคนเรียกว่าแรงบันดาลใจ ทดลองให้รู้แนวคิดหรือเทคนิคเขา ทำได้ จะทำให้เหมือนเท่าไรก็ทำไป
แต่ต้องเข้าใจว่า...ทำไปเพื่อที่จะค้นหาแนวทางที่คนอื่นยังไม่ได้คิด ค้นหาในสิ่งที่ตนเองคิดว่ารักที่จะสร้างสรรค์ผลงานให้กับตนเอง
...แต่มีช่างภาพหลายต่อหลายคนยึดติดอยู่กับการทดลองที่ทำให้เหมือนคนอื่นแล้ว
คิดว่านั่นคือความประสบความสำเร็จของตนเอง มันจะทำลายการพัฒนาการการคิดหาแนวทางของตนตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มคิดเองเสียด้วยซ้ำ
...แล้วมันจะนำพาเราไปถึงจุดตันจากกฏเกณฑ์ของคนอื่นที่เขาเป็นคนคิดเอาไว้ เรียกว่า วิ่งตามเขาไปตลอดชีวิตก็ว่าได้ปัญหาใหญ่ ๆ ของการทำลายความคิดสร้างสรรค์คือ ข้ออ้าง ที่เราสร้างขึ้นเพื่อตัดทอนการฝึกฝนของตนเองข้ออ้างนี้คืออะไร เราซื้อกล้องมาเพราะภาพสวย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ถ่ายได้ทั้งนั้น เราก็คิดว่าเราถ่ายได้
เมื่อมีกล้องเราก็เข้าไปดูภาพคนโน้น คนนี้ ภาพเหล่านั้นยิ่งดูมากเท่าไหร่ มันก็จะมีกฏต่าง ๆ เกิดขึ้นมากเท่านั้น
เช่น แน่นอนแกถ่ายได้สวยเพราะแกมีเงินซื้อตั๋วไปต่างประเทศ อากาศที่นั่น ภูมิประเทศที่นั่นสวยกว่าที่เราอยู่แน่นอน
หากฉันไป ฉันก็ถ่ายได้ อืมม น่าคิด...
ฉันไม่กล้าเข้าหาคน กลัวเขาด่า แกทำแบบนั้นเป็นการรบกวนสิทธิส่วนตัวของคนอื่นเกินไป
ที่แกทำได้นั้นเพราะ บรา ๆ ๆ ๆ ฝนตก ไม่มีแดด บ้านเมืองรกไม่สวยงาม ร้อน เครียดอุปกรณ์สู้เขาไม่ได้ บรา ๆ ๆ ๆ (ไม่อยากพูดเยอะครับ มันเข้าตัวเอง) ฮา....
เราจะออกนอกกฏได้อย่างไร
นั่นสิ เป็นเรื่องที่เราต้องกลับไปอ่านข้างต้นอีกหลาย ๆ รอบ ว่าเราพลาดสิ่งใดไป
เราคิดอะไรอยู่ เราเป็นแบบไหน ตัวตนของเราตอบเราเองได้เท่านั้นครับ...
หลังจากนี้ไป
หากใครเห็นผลงานที่เราทำอะไรออกนอกกฏ บ้า ๆ บอ ๆ หรือมีกูรูคนไหนมาตัดทอนกำลังใจในความตั้งใจสร้างสรรค์งานของเราอยู่
ชูคอตอบมันไปเลยครับ " ก็กูจะถ่ายแบบเนี๊ยะ กูชอบของกู มึงจะทำไม มึงชอบมึงก็ถ่ายของมึงไปสิ!! " ฮา...ผมมีผลงาน 1 ชุด เป็นภาพชุดที่คิดออกนอกกฏเดิม ๆ เล็ก ๆ พอเป็นตัวอย่างเสริมบทความสำหรับคนที่กำลังคิดค้นหาอะไรใหม่ ๆ ให้กับตนเอง
เรียนรู้คนเดียวมันเหงา แชร์ ๆ กันไป ขอให้กำลังใจและความมุ่งมั่นให้กับทุกคนที่รักการถ่ายภาพครับ
(บทความนี้เกี่ยวกับการศึกษาการถ่ายภาพ ของดความเห็นเกี่ยวกับการเมือง)
ใครเป็นคนเขียนกฏว่าภาพ Landscape จะต้องสวยงาม?
MY LANDSCAPE..by 13maysa...
.
.
.
.
"A true photograph need not be explained, nor can it be contained in words." Ansel Adams, Photographer.
Share learning for you friends