ช่วง 2 เดือนก่อนผมมีความรู้สึกว่า ชีวิตผมอยู่ในกรอบอีกกรอบหนึ่ง จากกรอบ4เหลี่ยมของจอคอมพิวเตอร์ มาเป็กรอบ4เหลี่ยมในจอโทรทัศน์ ซึ่งมีอยู่
หลายกรอบซึ่งควบคุมความคิดของคนให้อยู่ในแต่ละช่อง แต่ละกรอบ แม้กระทั่งเพื่อนผมก็ยังไม่สามารถหลุดออกจากกรอบความคิดสีเเหลืองออกมาได้
เช่นเดียวกับคนที่อยู่ในกรอบความคิดของสีแดง ผมเลยมีความคิดว่าคนส่วนหนึ่งของประเทศถูกกำหนดกรอบความคิดไว้อย่างดิ้นไม่ออก ซึ่งมีทั้งกรอบสี
เหลืองกรอบสีแดงและกรอบสีฟ้า นอกจากกรอบสีแล้ว ก็ยังมีคนอีกลุ่มหนึ่งตกอยู่ในกรอบแห่งความว่างเปล่าความสนุกความฝัน คนที่ที่อย่ในกรอบนี้จัด
เป็นกลุ่มเพ้อฝันอยากเป็นนักร้อง ดารา หรืออยู่ในโลกของละคร หรือโลกของเกมส์ ที่มีคนคอยกำหนดว่าชีวิตต่อไปจะเป็นเช่นไร
ทุกคนที่ว่านี้ล้วนอยู่นอกกรอบแต่พอเปิดโทรทัศน์ก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในกรอบทันที ทั้งๆที่นั่งหรือยืนอยู่นอกกรอบแท้ๆ
ถ้าเราเอาความคิดมาอยู่นอกกรอบมาไว้ที่หัวสมองของเราเอง ตัวเรานั่นแหละที่จะหลุดจากกรอบ จากการเป็นทาสการปลุกระดม ที่มนุษย์เช่นเดียวกับเรา
เป็นผู้กำหนด เราจะเห็นว่าแม้ว่าเราจะอยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยมของห้องประตูหน้าต่าง ซึ่งเป็น4เหลี่ยม และภายในกรอบ4เหลี่ยมหลายๆกรอบนั้น ถูกล้อม
รอบด้วยวงกลมอันเป็นโลกที่เราอาศัยอยู่นั่นเอง และเราเองก็เป็นเพียงจุดเล็กๆในวงกลมหลายวงวงกลมที่อยู่รวมกันในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล
ถ้าเราหลุดจากกรอบสี่เหลี่ยมที่ควบคุมความคิดเรายังไม่ได้แล้ว ก็ยากที่เปลี่ยนแปลงประเทศได้เช่นกัน