เห็นภาพศาลเจ้าเก่าที่ นายใหญ่ ลงให้ดูภาพนั้นสะท้อนความเป็นหนองบอน"ยุคของเรา"ได้ดีที่สุด ถนนดินลูกรังดิบๆ....
ตัดกับสิ่งก่อสร้างที่ไม่น่จะมีในถิ่นพุรกันดารแบบนั้น ยังจำได้ว่าครูเราเอาบรั่นดีประเภทเฮนเนสซี่ นโปเลียน จากตุ่ม
ที่งานศาลเจ้ามากินบ่อยๆ แม้กระทั่งเอกซ์โอก็เคยเห็น ความดิบ ความยากลำบาก ความยากจน ความร่ำรวย ผสมปน
เปกันจนทำให้ชีวิตในช่วงนั้นแม้จะขมปร่าแต่ก็กลมกล่อมลงตัวอย่างไม่หน้าเชื่อ
แม้กระทั่งวันนี้สภาพในรูปเก่านั้นจะไม่มีหลงเหลือให้เห็นแม้แต่เค้าเดิมจนผมและเพื่อนครููหาทางเข้าโรงเรียนกันไม่
เจอ และป๋าบูรณ์ก็ยังไม่ชินจนกระทั่งบัดนี้.....
หนองบอนเปลี่ยนไปแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ เปลี่ยนทั้งวิถี อาชีพ สังคม
และการปกครอง กลายเป็นเทศบาลตำบลแทนที่ผู้ใหญ่บ้านกำนันที่ทรงอิทธิพลอย่างผู้ใหญ่เรียน กำนันเดช ซึ่ง
ผมยังจำภาพการคุมเวทีรำวงที่มีเอ็ม16วางพิงอยู่ได้สนิทตา อำนาจบารมีอิทธิพลเปลี่ยนมือและถูกจัดให้เข้าที่เข้าทาง
เหมืองพลอยกลายเป็นสวนยางสวนปาล์มสวนผลไม้ขนาดใหญ่สีแดงของดินลูกรังถูกแทนที่ด้วยสีดำของยางมะตอย
และสีเขียวของสวนปาลม์สวนผลไม้และสวนยาง....ไม่มีอีกแล้วของคำว่านักแสวงโชค เพราะที่ดินอันเป็นป่ารกชัฎ
ที่หลายคนมีสิทธิ(แอบ)มาบุกรุกแผ้วถางทำเหมืองกลายเป็นสิทธิส่วนบุคคลไปแล้ว
ครูเกษียณกระโจนเข้าสู่การเมืองอย่างพีอารักข์ ตามด้วยพี่สุกิจ และพียุทธ รวมทั้งผู้ใหญ่ป้อม ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ผมอดแอบมาคิดเล่นๆว่าเอ นี่จะย้ายจากโรงเรียนมาต่อกันที่เทศบาลอีกเหรอไง ถ้าเสี่ยนงตามมาอีกก็เป็นอันครบทั้งผู้บริหารและลูกหม้อหนองบอน โดยมีประชาชนเป็นลูกศิษย์ คงจะเจริญรุ่งเรืองดีพิลึก ก็คงจะขาดแต่พี่วีน้องใหม่ล่าสุดที่ยังติดภารกิจอยู่...........หนองบอนเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
แต่เรื่องราว ความรัก ความผูกพัน....เหล้า....ยังคงอยู่