สำหรับผมไม่รู้ว่าเรียกว่าอิสระทางการเงินแล้วรึยังนะ
แต่ตัวผมคิดว่า ตัวเองเป็นอิสระแล้วละ
1. ปัจจุบัน อายุเท่าไหร่ครับ
อายุ 30ต้นๆ
2. Passive Income ต่อเดือน เดือนละเท่าไหร่ครับ
ไม่มีครับ พ่อผมยกที่ดินบางปะกงให้ ผมขายไปได้เงินมา200ล้าน ผมถอนมาใช้เดือนละ4หมื่น ใช้ไงก็ไม่หมดครับ
อนาคตมีครอบครัว จะถอนมาเดือนละ8หมื่น ก็ยังไม่หมดอยู่ดี ตั้งใจว่าจะใช้ไม่เกินนี้ครับ
3. มีแฟน มีลูก หรือยังครับ ค่าใช้จ่ายในชีวิต ต่อเดือน ตกเท่าไหร่ครับ
มีแฟนแล้ว แต่ยังไม่แต่ง คชจ เดือนละ3-4หมื่นครับ
4. ลงทุน หรือว่า มีอาชีพกิจการอะไร ครับ
ไม่ทำงานแล้วครับ ขับรถเล่น ปลูกพลูด่าง วาดรูป
ลงทุนในกองทุน และ หุ้นเล็กน้อย
ส่วนมากปล่อยเงินกู้ครับ
5. ตื่นนอนกี่โมง เข้านอนกี่โมง ครับ 555
แล้วแต่อารมณ์ครับ
6. ว่างๆ ชอบไปไหน หรือ ทำอะไรเป็นงานอดิเรกครับ
ชอบเที่ยวเมืองนอกครับ เอาดอกเบี้ยเงินกู้ที่ได้ต่อปี ก็เที่ยวได้ปีละ2-3ครั้งครับ
ปล. เพิ่มเติมนะครับ
ณ วันนี้ผมคิดว่าผมสบายแล้ว ทุกวันนี้ก็ไม่ได้คิดเรื่องบริหารเงินอะไรแล้วครับ คิดแค่บริหารความสุขของตัวเองและคนรอบๆตัว
เงิน200ล้าน ผมแค่แบ่ง 180ล้าน ฝากประจำที่ได้ดอกหลังหักภาษี 3% อีก20ล้านนี่ฝากออมทรัพย์เผื่อจะใช้ รวมถึงเปนบช ที่ผมถอนทุกเดือนด้วย
ผมได้ดอกปีละ 5.4 ล้าน
แต่ผมบริหารความสุขโดย นำเงิน2ล้าน จากดอกเบี่ย ให้ครอบครัวแฟนใช้ครับ
เพราะพ่อแม่เขาไม่ค่อยมีเงิน ส่วนพี่ชายอีก2คนก็ไม่ทำงาน ผมเพิ่งให้ไปต้นปี 2ล้านบาท ให้เขาไปบริหารใช้ทั้งปี และห้ามขอเพิ่ม
แต่ปีที่ผ่านมาให้ไปเยอะหน่อย เพราะซื้อรถให้พี่ชายแฟนคนละคัน อัลติส กะ มาสด้า
แต่ต่อไปจะให้แค่ปีละ2ล้าน ให้ไปบริหารใช้กันเอง4ชีวิต
และปีหน้า ผมได้ดอกมาอีก5.4ล้าน จะเอาไปซื้อบ้านให้ครอบครัวแฟนครับ เพราะตอนนี้บ้านเขาเก่าแล้ว
พ่อแม่ ผมก็เห็นด้วย บอกว่าผมควรแบ่งปันความสุข ความสบาย ให้คนรอบๆตัว
เพื่อนผม บางคนไม่มีเงินลงทุน ผมยังให้เลย 5แสนบ้าง ล้านนึงบ้าง (เฉพาะเพื่อนที่คบกันตั้งแต่เด็กเท่านั้น เพราะถือว่าคบกันมาด้วยใจ) แต่ต้องเป็นเงินจากดอกเบี้ยฝากประจำ
ผมมีเพื่อนสนิทแต่เด็กชื่อโจ้ บ้านมันจน เมื่อปีที่แล้ว ผมให้เงินไปฟรี1ล้าน เพราะเห็นมันอยากลงทุนเปิดร้านชาบูบุฟเฟ่
ตอนแรกมันไม่เชื่อ คิดว่าผมอำ ตอนหลังผมบอกให้จริงๆ ให้เลยไม่ได้ให้ยืม มันไม่กล้ารับ ผมบังคับมันรับเงินไว้ มันก็ถามว่าทำไมผมให้เงินมันเยอะขนาดนี้ ผมบอกมันว่า ตอน ป2 ผมลืมเอาเงินไปลงเรียน ผมยืมเงินมันนี่แหละ5บาท ซื้อขนม มันมีเงิน10บาท แต่มันเลี้ยงขนมผมเลย 5 บาท ผมจำฝังใจมาจนวันนี้ ผมบอกมันว่า ตอนเมิง ป2 เมิงมีเงินแค่10บาท ยังกล้าให้กรูครึ่งนึงของเงินที่เมิงมี วันนี้กรูให้เมิง1ล้าน ยังไม่ถึง1%ของที่กรูมีเลย
มันยังบอกว่ามันโคดคุ้มเลย ฮ่าๆๆ
เพื่อนบางคนก็ไปโพสด่าไอ้โจ้ในเฟส ว่าหลอกเงินผม เพราะโจ้มันบอกในเฟสเลยว่าผมให้เงินมันมาเปิดร้านชาบู
ผมก็เข้าไปตอบในเฟสเลยว่า ผมไม่ได้ถูกหลอก และโจ้ไม่ได้ขอผม ผมให้เอง
ผมถามกลับไปด้วยซ้ำว่า ทำไมพวกเราตอนเด็กๆ เรามีเงินกันแค่10-20บาท เราสามารถเลี้ยงขนมเพื่อนได้ถึงครึ่งหรือมากกว่าครึ่งของเงินที่เรามี
แต่ทำไมเราโตกันขึ้นมา เรารวยกว่าเดิมเยอะ สมมติว่ามีเงิน1ล้าน ใครกล้าให้เพื่อนฟรีๆ1แสนบ้าง แค่10%เอง ทุกวันนี้ไม่มีใครกล้า
แต่ทำไมคนที่ไม่กล้าในวันนี้ เมื่อ20กว่าปีก่อน มีเงินเท่าไร สามารถเลี้ยงเพื่อนได้กว่า50%ของเงินที่มี เพราะ เราทำไปด้วยความสุขไงตอนเด็กๆอะ