PIGHOUSE THA-FORUM.NET
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

เพื่อนกันจนวันนี้
 
บ้านPortalGalleryLatest imagesค้นหาสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 วิวาทะ

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
Admin
ผู้ดูเเลระบบ
ผู้ดูเเลระบบ
Admin


จำนวนข้อความ : 12377
Join date : 27/11/2010
Age : 68

วิวาทะ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: วิวาทะ   วิวาทะ EmptyMon 16 Jun 2014, 1:09 pm

ผมเอารายละเอียด วิวาทะ ระหว่าง 2 ศิลปินใหญ่มาลงให้พิจารณา
กันครับ ฝ่ายเริ่มคือนายสุชาติ ที่ออกตัวว่า ไม่เอาทักษิณ และต่อ
ต้านรัฐประหาร แต่ไม่ยักบอกว่า ถ้าไม่รัฐประหาร แล้วทำยังไง
แถมยังไปแขวะรุ่นน้องที่เป็น อาจารย์ใหญ่ ของผมเสียด้วย
ยาวหน่อยครับ เรื่องนี้ไม่ลงเฟ้ซ


สุชาติ สวัสดิ์ศรี

เจ้าของนามปากกา "สิงห์สนามหลวง" โพสต์ว่า "รับไม่ไหวจริงๆ" กับตรรกะศิลปิน-นักเขียนที่ว่าประท้วงรัฐประหาร คือเอาทักษิณคืนมา โดยเขายืนยันว่า "ไม่เอาทักษิณ" และไม่เคยไว้ใจ "อำนาจจากปากกระบอกปืน" ในอดีตทหารมักอ้าง "จินตนาการสามบรรทัด" เข้ามา "ล้างท่อ" ทำไมจึงไม่เก็บรับบทเรียน และไม่รู้หรืออย่างไรว่าแสงจากดวงอาทิตย์นั้นอาจทำให้ตาบอดได้

เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี เจ้าของนามปากกาสิงห์สนามหลวง ผู้ก่อตั้งรางวัล "ช่อการะเกด" และศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ปี 2554 ได้โพสต์สเตตัสในเฟซบุ๊คหลังนายสุรชัย จันทิมาธร หรือหงา คาราวาน แสดงความเห็นว่า การประท้วงรัฐประหาร คือการเรียกร้องให้เอาทักษิณและยิ่งลักษณ์คืนมา โดยนายสุชาติแสดงความเห็นไว้ดังนี้

000

ผมตกใจอยู่เล็กๆ เมื่ออ่านพบความเห็นประเภท "ประท้วงทำไม รัฐประหาร ทำไมไม่กล้าบอกว่าเอาทักษิณคืนมา เอายิ่งลักษณ์คืนมา เอาเสื้อแดงคืนมา น่าจะตรงประเด็นกว่า".

ผมนั้นมีความเห็นชัดเจนว่า "ไม่เอาทักษิณ" มาก่อนมีกลุ่มพันธมิตรฯประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยซ้ำ และเคยไปแสดงความเห็นที่ท้องสนามหลวงด้วยความเห็นว่าทักษิณเป็น "ตัวปัญหา" มาตั้งแต่ก่อนปี 2549 อีกทั้งต่อมาก็ไม่ถือตัวเองว่าเป็น"แนวร่วม" หรือ sympathizer ของ นปช.ด้วย จะเรียกผมว่า "สลิ่ม" หรือ "โรคประจำศตวรรษ" ทีเห็นประชาชนในแต่ละฝั่งข้างต่างก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือตกเป็นเหยื่อของทักษิณ และ "คนประเภททักษิณ" (คำของ นิธิ เอียวศรีวงศ์) ที่มีอยู่มากมายในแวดวงการเมืองไทยตลอดตั้งแต่ "คณะทหาร" ทำการรัฐประหารมาตั้งแต่ พ. ศ. 2490 ก็ว่าได้

พูดกันตรงไปตรงมาก็คือผมไม่ค่อยเชื่อในชัยชนะของประชาชนอย่างสมบูรณ์มาตั้งแต่นั้น และแม้จะเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 มันก็แทบไมไห้บทเรียนอะไรนัก นอกจากนั้นการเข้ามาของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่ทำตัวเหมือนเป็นสาขาของพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่เมื่อ 40 ปีก่อนก็แทบไม่ได้ช่วยอะไรมากไปกว่าการทำตัวเป็นเหมือน "แนวร่วมด้านกลับ"ให้ทหาร ดังนั้นผมจึงไม่ไว้ใจ "อำนาจจากปากกระบอกปืน"" มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทหารฝ่ายไหนก็ตาม และในประวัติศาสตร์การเมืองของไทย ทหารก็มักอ้าง "จินตนาการสามบรรทัด" (ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์) มาอ้างเหตุเข้ามา "ล้างท่อ" (คำของสุรชาติ บำรุงสุข) ทุกๆ เวลา 8-9 ปืต่อครั้ง และทุกครั้งที่มีการ "ล้างท่อ"ด้วยความหวังดีใดๆ ก็ตาม ผมก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ทั้งนั้น แม้ในช่วงกระอักเลือดหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ผมก็ตัดสินใจ"ไม่เข้าป่า"

ดังนั้น กิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการถูกชวนให้ "เข้าพรรคการเมือง" ตลอดรวมทั้งกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ในเวลาต่อมา ผมไม่เอาทั้งนั้น ไม่ว่าจะมีคนรู้จักชักชวนแบบไหนก็ตาม ผมเป็นเพียงคนทำหนังสือ เขียนหนังสือเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น ทั้ง นปช. และ กปปส. ผมก็มีคนรู้จักที่เลือกข้างมาชักชวนให้ไปขึ้นเวทีทั้งของ นปช. และ กปปส. แต่ผมยืนยันว่าผมไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมือง ชักชวนยังไงผมก็ไม่ไป ฝ่ายเหลืองมาหา ผมก็บอกว่า "ผมไม่ไปเป็นแดง คุุณก็น่าจะพอใจแล้ว" ฝ่ายแดงมาหา ผมก็บอกว่า "ผมไม่ไปเป็นเหลือง คุณก็น่าจะพอใจแล้ว" เป็นตรรกะที่น่าเตะอยู่เหมืือนกัน
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://pighouse.thai-forum.net
Admin
ผู้ดูเเลระบบ
ผู้ดูเเลระบบ
Admin


จำนวนข้อความ : 12377
Join date : 27/11/2010
Age : 68

วิวาทะ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: วิวาทะ   วิวาทะ EmptyMon 16 Jun 2014, 1:11 pm

ล่าสุดก่อนหน้าทหารจะออกมา "ล้างท่อ " เล็กนัอย มีใครคนหนึ่งอยากขอเอาชื่อผมในฐานะ "ศิลปินแห่งชาติ" ไปปรากฏบนเวที กปปส.ร่วมกับ "ศิลปินแห่งชาติ" คนอื่นๆอีกหลายคน ผมก็บอกไปอย่างสุภาพว่า ผมเป็น "โรคประจำศตวรรษ" เขามองผมอย่างงงๆ แล้วคงคิดว่าผมพูดเล่น แต่เขาก็เข้าใจทันทีว่าผมปฎิเสษ หลังจากนั้นอีกไม่นานก็ยังมีเพื่อน กปปส.ติดต่อมาอีก คือเขาอยากขอภาพเขียนของผมไปประมูล "หาเงินช่วยลุงกำนัน" แต่ผมไม่ให้ ผมบอกเขาไปอย่างสุภาพอีกเช่นกันว่า งานของผมไม่ถึงระดับ "ศิษย์อาจารย์ศิลป" อย่าเอาไปเลย ชักแม่นำ้าทั้งห้าว่าอย่าเลย จากนั้นเขาก็ไม่มาตอแยผมอีก

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้นี้ก็เพื่อบอกว่า ผมเองไม่เอาทักษิณมานานแล้ว และก็ไม่ไว้ใจหมู่คณะของเขาบางคนเช่นกัน แม้บางคนจะเคยทำงานด้านหนังสือกันมาก่อนก็ตาม อย่างไรก็ตาม มันทำให้ผมมีพื้นที่ว่างเหลือไว้ไตร่ตรองเป็นเรื่องๆ ไปทั้งส่วนของ กปปส. และ นปช. ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบางคนเคยเป็นเพื่อมกันมาทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ผมมีที่ว่างเสมอสำหรับเพื่อน แม้หลายคนจะเต็มกลืน และเคยมีบาดแผลกันมาในอดีต แต่ปัจจุบันก็คือปัจจุบัน เราต้องดูกันเป็นเรื่องๆ ตามเหตตามปัจจัย การเมืองผ่านมา แล้วก็ผ่านไป แตคำว่า "เพื่อน" เราน่าจะคงรักษาระยะห่างไว้เพื่อฟังเสียงข้างในของพวกเขาแต่ละคนเมื่อเวลาผ่านเลย รวมทั้งผมก็ให้เวลากับทหารค้วย ผมหวังว่าการศึกษาอย่างรอบด้านจะทำให้ "ทหาร"มีความสำนึกรู้มากขึ้น บางทีเขาอาจอยู่ในภาวะบางอย่างที่เราไม่เข้าใจ เขาอาจตกอยู่ในภาวะ"น้ำท่วมปาก"ก็ได้ เขาอาจมีเจตนาดีก็ได้ แต่หาทางออกไม่พบ เรื่องนี้ยังไม่มีรูปธรรมที่ชัดเจน นอกจาก wait and see ซึ่งในภาวะแบบนี้ ทหารก้ต้องเข้าใจความถูกต้องบางอย่างด้วย ดังนั้นก็ต้องดูกันต่อไป ไม่ใช่ด่วนไปยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ ทั้งที่ยังไม่มีผลงาน "เพื่อประชาชน" อย่างเห็นผล
ตรรกะที่มีเพื่อนคนหนึ่งเขียนว่า

"ประท้วงทำไม รัฐประหาร ..
ทำไมไม่กล้าบอกว่าเอาทักษิณคืนมา
เอายิ่งลักษณ์คืนมา
เอาเสื้อแดงคืนมา.."..

บอกตรงๆ ว่า ผมรับไม่ไหวจริงๆ แม้จะเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มร่วมก๊วนกันมา ผมก็รับไม่ได้จริงๆ นอกจากนั้นก็ยังมีเพื่อนๆ น้องๆ บางคนไม่รักษาระยะห่างไว้เลย ทำให้ผมไม่สบายใจอยู่เหมือนกัน คือคล้ายๆจะสุดจิตสุดใจมีความเห็นไปทาง "เชียร์การยึดอำนาจ" ซึ่งมันไม่น่าเชื่อเพราะพวกเขาต่างก็เคยอยู่ในส่วนที่ "ก้าวหน้า"มาก่อน บางคนยังเคย "สั่งสอน" ผมมาก่อนด้วยซ้ำแต่ผมไม่เอาด้วยกับวิธีลัดขั้นตอนแบบนี้ และก็ไม่เอาด้วยกับวิธี "เอาทักษิณกลับบ้าน" แบบทันสุดซอย แต่เมื่อเหตุออกมาแบบทหาร "ล้างท่อ" ผมก็เอาด้วยเช่นกัน อย่างน้อยก็ในทางหลักการและในทางสัญลักษณ์ การเชียร์รัฐประหารอย่างออกนอกหน้าของพวกเขาจึงทำให้ผมรู้สึกสะอิดสะเอียน พวกเราบางคนเคยร่วมอ้วกกันมาเมื่อตอนเป็นหนุ่มๆ ก็จริง และต่างเคยผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาไม่น้อย บางคนเป็นศิลปินแห่งชาติ บางคนเป็นนักเขียนรางวัลศรีบูรพา บางคนเป็นกวีรัตนโกสินทร์ บางคนเป็น "..อาจารย์ใหญ่เพลงเพื่อชีวิต" บางคนเป็นผู้กำกับละครเวที ฯลฯ

ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมพวกเขาจึงไม่เก็บรับบทเรียน ทำไมพวกเราจึงต้องมาอ้วกรดกันตอนนี้ด้วย ไหนว่าชอบเมอร์โซจากเรื่อง "ตนนอก" ของอัลแบร์ต์ กามูส์ เขาไม่รู้หรือไงว่า แสงจากดวงอาทิตย์นั้นอาจทำให้ตาบอดได้

วันนี้สินะที่เสรีภาพตาย เอ..หรือเมื่อวานก็ไม่รู้สินะ....

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากไปกว่านั้นก็คือมีผู้กด "ถูกใจ" จำนวนมาก และที่เห็นชื่อบางคนก็ล้วนเป็นเพื่อนๆน้องๆที่ผมรู้จักเป็นส่วนใหญ่ นี่พวกเขาเชียร์ทหารเรื่องการทำรัฐประหารจริงๆหรือ หรือว่าพวกเขาเป็นเพียงแฟนเพลง"เพื่อชีวิต"ที่ขึ้นเสียงใน "ผับเพื่อชีวิต"กันอย่างออกรสเมื่อถึงตอนที่บอกว่า " ...ทุนนิยมจักถูกทำลาย"

..

ผมใกล้กำลังใกล้จะอ้วกเต็มทีแล้ว..ช่วยหยิบกระโถนแห่งกระโถนมาให้ผมหน่อย !
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://pighouse.thai-forum.net
Admin
ผู้ดูเเลระบบ
ผู้ดูเเลระบบ
Admin


จำนวนข้อความ : 12377
Join date : 27/11/2010
Age : 68

วิวาทะ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: วิวาทะ   วิวาทะ EmptyMon 16 Jun 2014, 1:15 pm

ต่อไป เป็นน้าหงาที่ถูกพาดพิง

เรียนท่านสวัสดิ์ศรี สุชาติ ครับพี่

อย่าถือว่าเป็นวิวาทะอะไรกันเลยครับ ผมคงมิเกิดอหังการ์อะไรขนาดนั้นได้ อีกประการหนึ่ง ผมก็เผลอลืมเกียรติตำแหน่งที่สังคมหยิบยื่นให้ในบางเวลาที่มันติดพันกับภาระหน้าที่อันเป็นกังวลอยู่ ภาระหน้าที่ดังกล่าวก็มิใช่เป็นสิ่งที่ใครเขาหยิบยื่นให้ทำ ผมไปคิดเองทำเองทั้งสิ้นในสำนึกง่ายๆว่าเราเป็นหนึ่งในสังคมที่เป็นอยู่อันหลากหลาย พื้นที่ผมใช้อยู่เป็นที่เฉพาะตนด้วยซ้ำไป ผมดีใจที่มีสนามส่วนตัวได้แสดงออกเท่าที่มีโอกาส โดยไม่เป็นการรบกวนกระบวนการตรวจสอบจากบรรณาธิการใดๆ แปลว่าผมมีหนังสือของผมเองที่อาจจะมีคนอ่านอยู่ร้อยสองร้อยหรือถึงสามร้อยคนแล้วแต่กรณี ผมก็ค่อนข้างจะมีความสุขเล็กๆที่มีโอกาสฝึกคิดฝึกเขียนอยู่เสมอๆ อันนี้คือปณิธานที่ตั้งไว้

ในช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมา ผมเพิ่งรู้ตัวว่ายังพอฟื้นงานเขียนอันเป็นที่รักมาแต่เริ่มต้นได้ โดยไม่เกร็งไม่แข็งจนด้านไปเหมือนที่เคยกังวล สิ่งที่น่ากลัวสำหรับนักเขียนก็คือ เขียนหนังสือไม่ออกหลังจากเขาเขียนมาแล้วระดับหนึ่ง ปัจจุบันนี้บทกลอนที่ผมเขียนสั้นๆลงเฟซบุ๊ค เพียงปรารถนาฝึกมือเท่านั้น เหมือนช่างเขียนรูปถ้าไม่หมั่นสเก็ทช์ มือของเขาก็จะไม่เดินเส้นได้สะดวก

ผมเขียนเรื่องสั้นสองเรื่องครึ่ง (หมายถึงเรื่องที่สามกำลังเขียนอยู่) ผมก็ไม่อยากจะส่งไปลงพิมพ์ที่ไหนเหมือนที่เคยทำ ผมเก็บมันไว้ตรวจทานแก้ไขทีละน้อย ไม่ดิ้นรนที่จะอยากตีพิมพ์เหมือนอย่างเคย และยังอยากเขียนให้ได้มากกว่านี้ ทั้งที่ไม่ค่อยมีเวลา

เวลาหมดไปกับการทำมาหากิน อาชีพวงดนตรีสำหรับผมยังพอหากินได้ มันเป็นรายได้เดียวที่ทำให้ผมดำรงชีวิตอยู่ โดยไม่ต้องแบมือขอเงินใครอย่างที่เคย ความตั้งใจประการหนึ่งก็คืออยากอยู่ให้ได้เหมือนลิเกหมอลำเขาเคยอยู่กันมา เพลงที่เราเขียนเราร้องก็น่าจะเป็นเช่นนั้น หรือมิใช่

สำหรับบางช่วงบางชีวิตที่ผ่านมา มันคงเป็นวิถีที่ต้องเป็นไป ไม่ว่าการเข้าร่วมการเคลื่อนไหวทางการเมืองในหลายๆ ครั้ง แม้กระทั่งการเข้าป่าจับปืน แต่ละเรื่องแต่ละราวคุณเชื่อไหมว่ามันเป็นความพึงใจ ผมไม่เคยกระสันในลาภยศของชัยชนะหรือพ่ายแพ้ ผมว่ามันเป็นเพียงหนึ่งสิ่งในชีวิตร่วมอันหลากหลายดังกล่าวไปแล้ว สำหรับผมประสบการณ์ทั้งหมดมันยังมีค่ามากมายในชีวิตอันเส็งเคร็ง มีค่ามากจนล้นเกินที่จะเก็บในความทรงจำ โลกกว้างกว่าที่เราคาดคิดจริงๆ


ดังที่กล่าว ผมมิปรารถนาวิวาทะใดๆกับเพื่อนพ้องทางน้ำหมึก ถ้าความรู้สึกใดๆที่เกิดขึ้นกับคุณจะพาลทำให้คุณรู้สึกป่วย ก็ต้องขออภัยจริงๆ อย่าซีเรียสทางการเมืองให้มากนัก ผมก็อยู่กับมันมาจนพอจะรู้จักมักจี่ ผมว่าการเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ ทั้งอำนาจ บารมีต่างๆ ผลประโยชน์ใดๆ ถ้าจะตกเป็นของประชาชนก็เป็นสิ่งที่ดีและควรทำ ในทางตรงข้ามก็ไม่ควรทำ

ประการหนึ่งที่อยากจะขอร้องสำหรับความเป็นเพื่อนกรุณาลบคำว่าอยากอ้วกด้วยได้ไหม เรื่องแบบนี้เขาไม่ต้องบอกกัน ถ้าเป็นโต๊ะเหล้าก็เชิญไปอ้วกเองที่ห้องน้ำ อ้วกบนโต๊ะไม่ไหวครับพี่ วงแตก!
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://pighouse.thai-forum.net
Admin
ผู้ดูเเลระบบ
ผู้ดูเเลระบบ
Admin


จำนวนข้อความ : 12377
Join date : 27/11/2010
Age : 68

วิวาทะ Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: วิวาทะ   วิวาทะ EmptyMon 16 Jun 2014, 1:16 pm

เพื่อนให้คะแนนใครครับ...อย่าลำเอียงนะ
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://pighouse.thai-forum.net
 
วิวาทะ
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
PIGHOUSE THA-FORUM.NET :: ห้องรับแขก :: ความเคลื่อนไหวใหม่ๆ/สนทนา-
ไปที่: