รัฐแดงได้วางแผนก่อความวุ่นวายสงครามกลางเมืองเมืองกรุงเทพ โดยใช้ “กลุ่มกาละแม “เครือข่ายเสื้อแดง สมุนโกตี๋ ที่หัวหน้าแก๊งค์เป็นหญิง สามีชื่อเปี๊ยก กลุ่มนี้ทำงานมาตั้งแต่ปี 52-53 แม้บางรายถูกจับกุม แต่โดยมากคดีไม่คืบหน้า ทำให้กลุ่มเหล่านี้ไม่หยุด เพราะมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนกับรัฐแดงและหัวหน้าชายชุดดำระดับสูง ลำดับแผนปฏิบัติการของกลุ่มนี้คือ
1. ช่วง พ.ย.56 กลุ่มชายชุดดำ และกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ โดยมีการนำกลุ่มนี้รับการฝึกอบรมการใช้อาวุธและวัตถุระเบิดที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ประมาณ 50 คน ซึ่งใช้ชื่อว่ากลุ่มทัพพระยาเสือ
2. บุคคลที่เข้ารับการอบรมส่วนหนึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มพิมลราชอยู่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี มี 1 รายชื่อนายโจ บ้านอยู่ประชานิเวศน์ ซอย 14 จ.นนทบุรี โดยมีสารวัตรหนุ่ม (นิติกร DSI ) และ พ.ต.ต.เสงี่ยม สังกัด DSI เป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านการเงินโดยจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้คนละ 500 บาท ต่อ วัน ฝึก 1 สัปดาห์
3. กาละแม และกลุ่มฯ อำพรางตนอยู่ที่ชุมนุมของ กปปส.อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นานแล้วและสังเกตการณ์ว่าเข้าถึงแกนนำ กปปส.ทำได้ยาก เนื่องจากมีการคุ้มกันจากชายชุดเขียวและการ์ดแน่นหนามาก อีกทั้งเปี๊ยกไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้
4. กาละแม ได้ประสานกับหนึ่ง ( จนท.กอ.รมน. จ.นนทบุรี) ของให้สแกนรูป การ์ด กปปส.ที่มีอยู่ในไฟล์ทั้งหมดส่งให้กลุ่มฯ เพื่อจะได้ดำเนินการจัดการเป็นรายบุคคล โดยจะมีการนัดหมายรับข้อมูลกันในช่วงเย็น
5. ต้นเดือน ธ.ค.56 นายธณันธร และ เสงี่ยม ได้มอบหมายให้ดาบเชียร์ธง ซึ่งเป็นชายชุดดำตระเวนชายแดน และโจ อ้วน พงษ์ ไปขนอาวุธจาก จ.ราชบุรี เข้า กทม. และในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ดาบโย่ง กาละแม และเปี๊ยก ได้เดินทางโดยรถยนต์ปิคอัพจาก กทม.ไปยัง จ.ขอนแก่น เพื่อไปรับอาวุธสงคราม ประกอบด้วย M16 และ M79 จากชายชุดดำตระเวนชายแดน
6. เมื่อกลับมา กทม.กาละแมได้รับนางณัฏพัชร์ แกนนำ ฮาร์คอร์ พัทยา จ.ชลบุรี กลับมาด้วย และ 29 ธ.ค.56 กาละแมและพวกไปรับกระสุนกระสุนปืนและระเบิด M16 และ M 79 ที่นครนายก และ ปทุมธานี (คลอง 7) อีกครั้ง
7. วันที่ 8 ม.ค.2557 กาละแม ได้ประสานนายท็อป นักธุรกิจ หมู่บ้านสี่ไชยทอง ถ.แจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขอรับการสนับสนุนกระสุนปืนอาก้า (AK 47)ขนาด 7.65 มม.ชนิดที่ทำจากรัสเซีย เพื่อปฏิบัติการก่อเหตุร้าย โดยนัดพบกันที่บ้านนางเล็ก ที่หมู่บ้านเดียวกัน เหตุที่กลุ่มกาละแมเจาะจงกระสุนปืนที่ทำจากรัสเซีย เพราะกลุ่มฯ มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืน AK 47 ไปใช้เพื่อการ Sniper เป้าหมาย
8. กลุ่มชายชุดดำได้ดักเฝ้าคลื่นความถี่วิทยุสื่อสารของการ์ด กปปส.ซึ่งมีนามเรียกขานแม่ข่ายว่า “โมบาย” และกลุ่มลูกข่ายที่ติดต่อมี กระเบนธง จงอางชล อินทรีย์ และมีคลื่นความถี่ ระดับ VIP เฉพาะ โดยมีแม่ข่ายนั่งสั่งการอยู่ในรถยนต์ โตโยต้าแลนด์ครุยเซอร์ ใช้นามเรียกขานว่า “เสือ 1 “ ทั้งนี้เพื่อรอจังหวะเวลาช่องว่างในการเข้าโจมตีก่อเหตุ
9. ชายชุดดำคอยส่งข้อมูลรายชื่อและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อทีมงาน โฆษก กปปส.จำนวน 6 จุด คือห้าแยกลาดพร้าว ราชประสงค์ สวนลุมพินี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อโศก และ สี่แยกปทุมวัน ให้กลุ่มกาละแม พร้อมข้อมูลจังหวะช่องโหว่เพื่อหาจังหวะโจมตี
จึงเป็นที่มาของการรู้ความเคลื่อนไหวล่วงหน้าในการลอบยิงการ์ดของ คปท.และ กปปส.ที่ได้รับการ Scan ชี้เป้าจาก DSI แทบทุกคืน และนำไปสู่แผนอำมหิตดักลอบสังหารสุเทพ ที่ถนนบรรทัดทอง และถาวร ที่อนุสาวรีย์ โดยมีชายชุดดำเป็นผู้รายงานข้อมูลให้กลุ่มกาละแมนี่เอง
แต่ตอนนี้แผนทั้งหมดถูกพี่นำมาเปิดเผยเสียอีกแล้ว จึงขอแนะนำแบบคนกันเองว่าให้รัฐแดงสั่งชายชุดดำและ DSI ให้ตามเก็บ “ตัดตอน” ปิดปากแก็งค์กาละแมให้หมดทั้ง 50 คนนี้เสีย ไม่งั้นถ้าชายชุดเขียวจับมันเป็นๆ คนหนึ่งคนใดได้ มันจะถูกนำไปทรมานที่โหดร้ายตามแบบฉบับของซีลชายชุดขาว จะฉีกปากมันให้บอกว่ามีผู้เกี่ยวข้องคนใดใน DSI , ชายชุดดำ และพรรคเผาไทย บ้างเมื่อนั้นท่านทั้งหลายคงไม่มีปัญญาอยู่ในแผ่นดินนี้แล้ว
และพี่ขอแนะนำกลุ่มกาละแมว่า พวกเอ็งคงถูกชายชุดดำตามเก็บตัดตอนทีละคนจนหมด 50 คนแน่ๆ ดังนั้นวิธีที่พวกเอ็งพอจะมีชีวิตรอดอยู่ได้ คือรวมตัวกันไปลอบสังหารพวกคนสังการเอ็ง รัฐแดง ชายชุดดำ และ DSI ทีละคนๆ ให้หมด อย่าให้มันทำเอ็งก่อนได้...งานนี้ใครลงมือก่อนรอดตาย แล้วก็ย่องมามอบตัวสารภาพกับบิ๊กเขียว บิ๊กขาว เสีย ทำผลงานแก้ตัวแบบนี้เราคุยกันได้...เชื่อพี่เถอะ
@เสธ น้ำเงิน
