เราทราบว่าฟิลิปปินส์มีการปฏิวัติประชาชน แต่ไม่ทราบว่าปฎิวัติอย่างไร และทำไมทหารถึงยอมแพ้
ลองอ่านดูครับ รู้ไว้ใช่วา เอาไว้เป็นบทเรียน
บทเรียนจากฟิลิปปินส์
คลับคล้ายคลับคลา
คุ้นเคยอย่างไรก็ไม่รู้ บรื๋อว์ววว
เหมือนอย่างกะพิมพ์เดียวกันเรย
แต่ขอให้จบแบบนุ่มนวลกว่าเค้าก็แล้วกัน
ฟิลิปปินส์ จบลงไปแล้ว แต่ไทย เพิ่งจะเริ่มต้น ถ้าตระกูลชินวัตรได้ครองอำนาจต่อไปในไทย ลองมาอ่านประวัติศาสตร์ดู
มาร์กอส มีความสามารถในการสร้างความประทับใจให้กับประชาชนชาวรากหญ้า การเลือกตั้งทุกครั้งเขาได้คะแนนเสียงจากประชาชนกลุ่มนี้อย่างท่วมท้น เขาพูดเก่งและทำตัวเป็นนักบุญด้วยการเอาเงินภาษีมาแจกคนจนเวลาไปพบปะประชาชนตามสถานที่ต่างๆ แต่อีกมุมหนึ่งเขาใช้อำนาจเข้าหาผลประโยชน์กับโครงการทั้งหมดของประเทศ บริษัทที่เข้าประมูลงานเป็นบริษัทของลูกหลานว่านเครือของตัวเอง เขามีทีมงานกฎหมายที่พร้อมตีความให้ผลประโยชน์เข้าข้างตัวเอง และถ้ากฎหมายไม่เอื้ออำนวย ก็จะใช้สภาซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจ ออกร่างกฎหมายใหม่ให้ตรงกับความตรงการ
ในสมัยนั้น ประเทศฟิลิปปินส์เหมือนกับเป็นบริษัทส่วนตัวของเขา โดยมีผู้นำฝ่ายทหาร ตำรวจ ศาล ที่ยอมศิโรราบกับผลประโยชน์ที่มาร์กอสเจียดแบ่งให้ มีการแต่งตั้งนายทหาร นายตำรวจที่ไว้ใจได้ให้ไปคุมบอร์ดรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ใครที่ไม่อยู่ข้างเขาจะถูกกำจัดอย่างทารุณ ทั้งวิธีการทางกฎหมาย ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสี และถ้าเล่นงานตามกลไกรัฐที่เขาคุมอยู่ไม่ได้ ก็จะใช้วิธีป่าเถื่อนคือลอบสังหาร ตลอดเวลาที่เขาครองอำนาจ มีฝ่ายต่อต้านถูกอุ้มหายสาบสูญไปหลายพันคน
เมื่อครั้งที่ผลการเลือกตั้งประกาศว่า มาร์กอสชนะนางคอราซอน อากิโน ฝ่ายธรรมะในฟิลิปปินส์ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เพราะถ้าใช้ผลการเลือกตั้งมาตัดสินมาร์กอสก็ชนะทุกที ทหารกลุ่มหนึ่งที่รักชาติบ้านเมืองลงมือปฏิวัติแต่ไม่สำเร็จ มาร์กอสไหวตัวทันและสั่งจับทั้งหมด สมเด็จพระสังฆราชทรงทนไม่ได้ ประกาศออกอากาศทางสถานีวิทยุว่า “ทหารฝ่ายปฏิวัติคือเพื่อนเรา จงออกจากบ้านท่านมารวมตัวกันเดี๋ยวนี้” เกิดการประท้วงทั่วกรุงมะนิลา มาร์กอสสั่งระดม กองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือ เต็มอัตราศึก ในขณะที่อาวุธของสมเด็จพระสังฆราชคือสถานีวิทยุเพียงสามช่อง บาทหลวงและแม่ชีจับมือกันเดินนำหน้าขบวนประชาชนเข้าหารถถังและปืนกลของทหาร ผู้บัญชาการทหารบกมีคำสั่งให้ทหารขับรถถังลุยทับฝูงชน แม่ชีวิ่งเข้าไปผลักรถถังที่กำลังวิ่งเข้าหาด้วยแรงกายอย่างน่าสงสาร วินาทีนั้นเองด้วยสามัญสำนึกของพลขับ จึงหยุดรถถังและประกาศกลับมาอยู่ข้างประชาชน มีสตรีนางหนึ่งรูปร่างหน้าตางดงาม แต่งกายอย่างสวยสะดุดตาออกไปยืนขวางรถถังคันหนึ่งที่ยังไม่ยอมหยุด เธอถอนสายบัวอย่างนอบน้อม ไม่น่าเชื่อว่าความอ่อนหวานสามารถหยุดความแข็งกร้าวของรถถังได้ เริ่มมีข่าวว่าทหารระดับปฏิบัติการหน่วยต่างๆประกาศแปรพักตร์จากมาร์กอส
หลังจากที่กองทัพบกเริ่มพ่ายแพ้ กองทัพอากาศก็ได้รับคำสั่งให้ทิ้งระเบิดกลางฝูงชน เครื่องบินรบบรรทุกระเบิดบินออกจากฐานสองลำเพื่อปฏิบัติภารกิจ นักบินมาเล่าในภายหลังว่า ภาพที่เขาเห็นคือฝูงชนจำนวนมหาศาลอัดแน่นตามท้องถนนที่ตัดกันเป็นรูปไม้กางเขน เขาคิดถึงคำสอนของพระเจ้า และตัดสินใจขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาด้วยการบินกลับฐาน แม้ทหารที่คัดเลือกไปทิ้งระเบิดในวันนั้นใจแข็งที่สุดแล้วยังทำไม่สำเร็จ ในที่สุดกองทัพอากาศก็กลับใจมาอยู่ข้างประชาชน
นักข่าวต่างประเทศที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ความเห็นว่า "คนอเมริกันมักจะคิดว่าตัวเองสอนคนฟิลิปปินส์ให้รู้จักประชาธิปไตย แต่วันนี้คนฟิลิปปินส์พิสูจน์แล้วว่าพวกเขากำลังสอนชาวโลกทั้งมวลว่าประชาธิปไตยคืออะไรในภาคปฏิบัติกันแน่...."
สหรัฐอเมริกาวางแผนพามาร์กอสหนีออกนอกประเทศ โดยพาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพสหรัฐ ไปยังสนามบินของฐานทัพในฟิลิปปินส์หลังจากนั้นต่อเครื่องบินทหารไปยังเกาะกวม และสุดท้ายไปลี้ภัยที่เกาะฮาวาย ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างทรมานอยู่ที่นั่นด้วยโรคร้ายหลายโรครวมทั้งความตรอมใจ และเสียชีวิตในอีกสามปีต่อมา ส่วนทรัพย์สินของเขาจากทั่วโลกถูกอายัดและส่งคืนให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ประมาณ 80,000 ล้านบาท
เรามาช่วยกันตัดไฟกันแต่ต้นลม อย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดกับประเทศไทย
@ อย่าดูถูกตัวเองว่า เราคนเดียวจะช่วยอะไรได้ ไม่จริงครับ ไม้ซีกเมื่อรวมกันมากๆๆๆ ก็สามารถงัดไม้ซุงให้ตกทะเลไปได้ อย่าฮึดเมื่อทุกอย่างสายไปแล้ว ต้องตอนนี้เท่านั้น ออกมา ออกมา
///ไม่ใช่แค่เขียนบทละครได้ฮาอย่างมีสาระแล้ว คุณเกลือหรือคุณวอก เป็นต่อ ยังเขียนในแง่มุมมองทางการเมืองได้น่าสนใจทีเดียว ฝากไทยเฉย ถ้าคุณยังเฉยอีกต่อไป และถ้าประเทศไทยล่มสลาย พวกคุณก็คือส่วนหนึ่งที่ทำให้มันเกิดเป็นแบบนี้