เมื่อคืนวาน

จากเฟ้ซ

9.09 กลับถึงบ้าน .. เล่าให้ฟังนะ ตำรวจน่ะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย เมื่อคืน ยศร้อยตำรวจเอกถอดเครื่องแบบสั่งลูกน้องวิ่งมอร์ไซด์คอยส่งข่าวกัน และข่าวดีอีกอย่างคือ ทร.ไม่เอา รบ.ชุดนี้เลย การจะทำอะไรต้องเห็นชอบทั้งสี่เหล่าทัพ ก็ถามถึงทัพอื่น เขาก็ไม่กล้าพูด เพราะเขาเห็นภาพไม่ชัดเจน
+++ เขาว่าจริงๆแล้วทักษิณน่ะ ยอมตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูณประกาศ แต่ลิ่วล้อไม่ยอมกลัวโดนเช็คบิลน่ะ และยิ่งลักษณ์ก็เตรียมแพ็คกระเป๋าแล้ว
+++ ตำรวจที่มาเมื่อวาน มันเอาแน่ มีหน่วยคอมมานโดด้วย ไอ้ประเภทจะโรยตัวจากที่สูงน่ะ ก็ไปเฝ้ากันบนสะพานยาวเหยียด ลักษณะม๊อบเป็นแบบเคลื่อนที่เร็ว การ์ดรายงานกันตรงไหนโหว่ ก็พรึ่บพรั่บไปกัน เหนื่อยกันมาก ห้องน้ำไม่มีเลย สงสารผู้หญิง และตำรวจยังบอกอีกว่า ขอร้องให้เชื่อผม อย่าใช้ความรุนแรงเด็ดขาด ถ้ามันมาให้นั่งลงเฉยๆ มันจะไม่กล้ายิง ถ้ายิงคือจุดจบของพวกมัน ซึ่งตรงกับที่กำนันพูดทุกอย่าง " เราต้องมั่นใจในกำนันนะ ว่ายังไงต้องว่าตามกัน อย่าสงสัย อย่าอวดรู้ "
+++ มีหน่วยแพทย์ วิ่งรอกอธิบายวิธีการดูแลตัวเองเมื่อโดนแกสน้ำตา และโซนิคบูม
+++ ช่วงตีสาม คนเริ่มกลับบ้านกันเยอะมาก ใจคอไม่ดีที่สุดช่วงนั้น ก็ ว.ไปราชดำเนินได้น้องๆหลานๆอาชีวะมาช่วยอุดหลายร้อยคน
+++++++++ "คนใต้" อาจจะพูดได้ว่า ถ้าไม่มีพวกเขา เราอาจจะไม่ผ่านคืนวานมาได้เลย เขาไม่กลัวตายจริงๆ บางคนน้ำไม่ได้อาบมาสองวัน เขาจะไม่กลับบ้าน ตายเป็นตาย เขารัก "กำนันสุเทพ" มาก ตลอดคืนเดินพล่านไปพล่านมาก ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอกราบด้วยความเต็มใจ คนใต้ใจเต็มจริงๆ +++++++++

เขาจะไม่กลับบ้าน ตายเป็นตาย เขารัก "กำนันสุเทพ


.........ไม่กลับบ้าน.......มาเถอะทิ้งบ้านริมน้ำใว้ชายฝั่ง

เมื่อคืนวาน 26 พ.จ. ผมเห็นด้วยกับท่านadmin จริงๆครับ วันที่ 26 ผมไปหาหมอที่ศิริราช หาหมอเสร็จประมาณ 3 ทุ่ม ระหว่างทางเปิดโทรศัพท์ดูการถ่ายทอดสดที่ราชดำเนิน เขาประกาศว่าขณะนี้ที่กระทรวงการคลังตำรวจจะบุกยึดกระทรวงการคลัง แต่ยังขาดพลังคน ตัดสินใจขับรถไปราชดำเนินทันที ระหว่างทางก็ซื้อผ้าเย็นผืนใหญ่ๆ และน้ำขวดไปด้วย เผื่อเจอแก๊ซน้ำตาจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ พอไปถึงราชดำเนิน เห็นรถกระบะจอดเป็นแถว บนรถจะมีคนหนุมคนสาวเต็มรถไปหมด แล้วยังมีหนุ่มสาวเข้าแถวกันอยู่ยาวพอสมควร ผมเดินเข้าไปถามว่าเขาจะไปไหนกัน ก็ได้รับคำตอบจะไปช่วยมวลชนที่กระทรวงการคลัง เพราะขณะนี้ตำรวจกำลังจะทวงพื้นที่คืน ผมก็สมัคที่จะไปด้วย ก็ได้รับคำตอบว่าเต็มแล้ว ดูโน้นแถวยังยาวเหยียดอยู่เลย ผมมองขึ้นไปบนรถ ก็เห็นคนจันทร์หลายคนอยู่บนรถแต่ละคัน ส่วนมากเป็คนที่ไปขายพลอยที่กรุงเทพ เมื่อไปไม่ได้ผมก็เลยชวนภรรยา น้องสาว น้องสะไภ้(ซึ่งเป็นคนเชียงใหม่)นัองเขย ลูกชาย หลาน เดินเลี่ยงผู้คนไปฟังเขาปราศัยด้านหน้าเวที ผมมองไปรอบๆอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คืนนี้คนน้อยจริงๆ ทางพิธีกรบนเวทีก็กลัวว่าตำรวจจะเข้ามาสลายการชุมนุม ผมเริ่มเดินสำรวจตามเต้นท์ต่างๆทั่วอนุสาวรีย์ คนน้อยจริงๆ กลับมานั่งหน้าเวทีใหม่ เริ่มหาข่าว ได้พูดคุยกับผู้คนที่มาร่วมชุมนุม ก็ได้ความว่า คนที่มาจากทางภาคไต้ได้กลับบ้านไปเอาเสื้ผ้าแล้จะกลับมาใหม่ ถึงเช้าวันที่ 28 และเมื่อตอนบายฝนตกลงมาอย่างหนักจนเปียกปอนกันไปทั่ว ก็เลยกลับบ้าน และบางส่วนก็เข้าไปหลับนอนตามซอกซอยบริเวณอนุสาวรีย์ชัย แต่ก็ยังดีที่มีการ์ดที่เข้มแข็งป้องกันถนนทุกเส้นที่มุ่งสู่อนุสาวรีย์ชัย รวมทั้งซอยเล็กซอยน้อยด้วย ผมและครอบคลัวนังฟังปราศัยจนถึงตีสาม พิธีกรประกาศว่า ขณะนี้พลังของพวกเราที่ขึ้นรถกระบะไป และชาวบ้านระแวกไกล้เคียงได้ช่วยกันล้อมตำรวจไว้แล้วจนตำรวจต้องถอยออกไปแล้ว ผมและครอบคลัวเลยกลับถึงบ้านตี 4 เกือบตี 5 ตื่นเสียเที่ยง แล้วเดินทางกลับจันทร์ในวันนี้ครับ

ที่เขียนมายืดยาวนี่ ก็มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ประเทศไทยครับ

ใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพมาได้ ห้าหกถาพ แต่ลงไม่ได้เพราะยังไม่ได้โหลด App resize ภาพ เพราะเพิ่งเปลี่ยนมาใชัsamsung not 3 ได้สามสี่วันครับ เดี๋ยวจะลองยิงไลท์ให้เสี่ยหอมลวให้ที ลองดูครับจะได้หรือปล่าว

รักเพื่อนโมทย์กะเพื่อนหอมมากมายจ้า เราก็ติดตามข่าวทาง bluesky ตอนอยู่บ้านตลอด

ภาพถ่ายฝีมือเสี่ยโมทย์
 

ปราโมทย์ พิมพ์ว่า:

ที่เขียนมายืดยาวนี่ ก็มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ประเทศไทยครับ

............น่าจะมีคนเดียวที่ตกประวัติศาสตร์55555566677777กิ้ว กิ้วๆๆๆๆๆๆๆ


ออกมา ออกมา แค่คนเดียวชายในดวงใจชนะแน่ๆๆ

ใช้โทรศัพท์ถ่ายครับ ไม่ได้แต่งเลยครับ เพิ่งเปลี่ยนโทรศัพท์ เลยยังไม่คุ้นชินกับกล้องไหม่ ส่วนกล้องกับเลนส์ของผมเดี้ยงกำลังส่งศูนย์ล้างอยู่ครับ (ลืมเก็บเข้าตู้ดูดความชื้น เสียหายเป็นหมื่นครับ เสร็จแล้วจะได้เหมือนเดิมหรือปล่าวก็ไม่รู้ เพราะต้องถอดชิ้นเลนส์ออกมาทั้งหมดทุกชิ้นเลยครับ(ความลืมบางครั้งก็ทำความเสียหายให้มากมายเหมือนกันนะครับ)

เล่นของสูงก็แบบนี้แหละ