" />
ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือหวาดหวั่นใดๆที่ถูกดำเนินคดีร่วมกับพันธมิตร ในข้อหาที่ออกจะร้ายแรง แต่มีความรู้สึกสับสนและไม่ค่อยสบายใจกับคนบางกลุ่ม ที่ใส่ร้ายด่าว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้กลั่นแกล้งฟ้อง พธม
ในฐานะที่ตัวเองอยู่เหตุการณ์ตลอดการชุมนุม ขอยืนยันกับท่านทั้งหลายว่า ปชป ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้
เรื่องการฟ้องร้องดำเนินดคีได้เริ่มทำกันตั้งแต่ พธม เข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล ตอนนั้นผู้ชุมทุกคนก็ทราบดีเพราะทุกครั้งที่แกนนำพูดเรื่องถูกฟ้องจะได้รับการปรบมือ ร้องตะโกนว่าทุกคนพร้อมที่ร่วมติดคุกด้วย ทุกคนพร้อมที่จะช่วยลุงจำลองรวบรวมเงินใช่ค่าเสียหาย
และเมื่อชุมนุม 193 วันยุติลง รัฐบาลพรรคพลังประชาชนเข้ามาบริหารประเทศ ก็ได้ดำเนินเรื่องฟ้องต่อ และ สั่งการให้ทางสำนักนายกรัฐมนตรีฟ้องร้องเพิ่มข้อหา ฝ่ายเสื้อแดงก็กดกันให้เริ่งดำเนินคดีและให้เพิ่มท่านทูต กษิต ภิรมเข้าเป็นผู้ต้องหาได้ การสอบสวนดำเนินดคีทำมาต่อเนื่องจน
กระทั้ง ปชป เข้าเป็นรัฐบาล ทางตำรวจซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับ ปชป อยู่แล้วเลยเพิ่มข้อหาเพิ่มผู้ต้องมากขึ้นรวมทั้งตัวเราด้วย ประกอบกับพวกเสื้อแดงสร้างความวุ่นวายขิ้นในบ้านเมืองเผาบ้านเผาเมือง ถูกจับติดคุกและดำเนินดคีข้อหาร้ายแรงหลาย
ตำรวจถูกสั่งจากนายใหญ่ให้เริ่งดำเนินดคี พธม ผู้ต้องหาหลายคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวหรือมีส่วนเกี่ยวน้อยมากถูกรวมเข้าไปหลังตำรวจถูกสั่งให้เร่งดำเนินคดี อภิสิทธิ ถึงแม้เป็นนายกในตอนนั้นก็ไม่สามารถขัดขวางขบวนการดำเนินคดีที่พวกเขาตั้งใจทำลาย พธม ได้ ถ้ายังไม่ลืมตำรวจไม่ได้อยู่ข้าง ปชป ตลอดเวลาที่เป็นรัฐบาล อภิสิทธิไม่มีสิทธิแม้จะตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะถูกตำรวจขัดขวาง ที่เขียนมาทั้งหมดนี้อยากให้ทุกคนได้เข้าใจและเลิกอคติต่อ ปชป เพราะถ้าเรามัวแต่โทษคนที่ต่อสู้กับระบอบทักษิณด้วยกันเท่ากับเราเป็นแนวร่วมของเสื้อแดงทั้งทางตรงและทางอ้อม
สุทิน วรรณบวร
อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโส สำนักข่าวเอพี