ผมไปหาหมอครั้งนี้ด้วยรถทัวร์ หนีจาก บริษัทหนึ่งแถวหน้า รพ.ตากสิน ด้วยเหตุผลว่าไม่ตรงเวลา มาอีกบริษัทหนึ่งที่ขนส่ง เหมือนหนีเสือปะรเข้ รถออกตรงเวลาเป๊ะ แต่ขับด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กม.ต่อชม.แวะรับคนตลอดเส้นทาง ออกจากจันท์8โมง ถึง กรุงเทพ บ่ายกว่าๆ เสียเวลานั่งบนรถเกือบ6ชม เท่ารถสีส้มไม่ติดแอร์สมัยเด็กๆเป๊ะเลย....
ขากลับ รถ ออก 6 โมงเย็น มาถ่ายผู้โดยสารขี้นรถอีกคันที่บางนา แวะรอผู้โดยสาร วิ่งด้วยความเร็ว40-60กม.ต่อชม.ถึงจันท์ 4 ทุ่ม....ถามว่า ทำไมไม่ขึ้นรถตู้(วะ)
มีคนจันท์อยู่คนนึงเป็นผู้หญิงผมเห็นตั้งแต่เล็กจนโต ทำมาค้าขายด้วยความยากลำบากจนประสบความสำเร็จร่ำรวยจนถึงวันที่เข้ากรุงเทพ เพื่อไปดูคอนโดที่ซื้อไว้ให้ลูกเรียนต่อ รถตู้ที่นั่งไปเกิด อุบัติเหตุ ตายคาที่ สามีรอดลูกรอด
ผมจึงไม่นั่งรถตู้และกำชับไม่ให้คนในครอบครัวนั่งรถตู้...จนกระทั่งตอนนี้หลายๆคนนั่รถตู้กันหมดแม้แต่อาของผม
ผมกับอาซ้อยังนั่งรถทัวร์มาจนถึงเมื่อคืน ระหว่างทางโชเฟอร์บ่นว่าวันนี้โดนวิ่งขึ้นลง 3 กะ ไม่ได้พักเลย เวลาจะ
(เยี่ยว)ขอโทษพูดแบบนี้จริงๆยังไม่มี กินข้าวก็ไม่อิ่ม เร่ง(กู)แล้ว เพราะรถไม่พอ คนไม่พอ ผมก็เลยมานั่งคิด
ว่า ถ้าเกิดหลับในขึ้นมาแล้วละก้อ...ก็เลยคิดไปถึงเจ้าของบริษัท หรือการควบคุมของรัฐ ดูช่างเพิกเฉยต่อความ
ปลอดภัยของผู้โดยสารเหลือเกิน
แต่ถึงอย่างไร ก็ทนนั่งรถทัวร์ต่อ เวลาชนกัน ได้เปรียบรถตู้แน่นอน....นี่ กรู.คิดมากไปหรือเปล่า