จะขึ้นต้นว่า "ผอบ" กลัวเพื่อนๆจะตกใจ แต่จริงๆจะเขียนถึงครูอบ พี่อบกับหมูเจี๊ยบก็เคยบาดหมางใจกันมาก ตอนที่เขาให้เราค้ำประกันกู้เงิน แต่เราค้ำไม่ได้ เพราะว่าเราเหลือเงินนิดเดียว ทางออมสินไม่ยอม เพราะเขาดุเงินที่เหลือของคนค้ำเป็นหลัก ไอ้ที่เขาโกรธมากๆก็คือ เขาเห็นเราเงินเดือนเต็มอยู่ แต่ทำไม้ ..เดือนต่อไปเราเหลือเงินเดือนนิดเดียว เราก้ต้องมีการกู้บ้างสิ (วะ) เรื่องที่สองก้ตอนที่แกเตะ และเอาร่มตีหัวเด็กที่ห้อง แกก็คิดว่าเราไปยุผู้ปกครองให้ฟ้องแก แต่จนบัดนี้ แกไม่รู้หรอกว่า ใครที่เป็นคนยุ เราก้รู้ แต่บอกใครไม่ได้ ตอนที่ทางเขตไปสอบสวนเด็กที่ห้อง ยังมีคนใกล้ชิดท่านผู้บริหารเรียกเด็กไปถามว่าครูอาจรีย์ให้พูดอย่างไร แล้วยังถามเด็กอีกว่า แล้วเวลาที่ครูอาจรีย์ตีล่ะ เจ็บไหม ให้นักเรียนบอกไปด้วยว่าครูอาจรีย์ก็ตี ตีมากกว่าครูอบอีก ก้เขามาสอบเรื่องครูอบ แล้วมันเกี่ยวกับกูได้ไงวะนี่ แต่อย่างไรก้ตาม ครูอบก็เคยดีต่อเรามากๆ ไปไหนก็ซื้อขนมมาฝาก ช่วยเหลือเราหลายเรื่อง ดังนั้น เมื่อเราย้ายออกมา เราก็ลืมความบาดหมาง เจอเขาก็สวัสดี ทักทายเขาเหมือนเดิม เขาก็คุยกับเราเหมือนเดิม ครั้งสุดท้ายคุยกันทางโทรศัพท์ เขาบอกว่าอีเตี้ย (ใครไม่รู้)มันไปเชียงใหม่ มันซื้อเข็มขัดมาฝากเรา มันจะให้เราผูกคอยตายหรือไงไม่รู้ วันนี้เราเมาอยู่สวนครูนิวรณ์ เราไม่เข้าบ้านหรอก เข้าไปมันจะตีเรา ... แล้วหลังจากนั้น ก้ไม่ได้ยินเสียงแกอีกเลย จนวันนี้ เราว่าอย่างน้อยเราก็ได้ไปเยี่ยม ได้โทรถามอาการกับหญิงบ่อยๆ เราจำได้ว่า เราเคยพลาด ไปตำหนิผอ.ให้แกฟัง แกด่าเราสงาด แกบอกว่า เป็นลูกพี่แก แกรัก แกนับถือ ยืมเงินเท่าไร หากแกมี แกไม่ขัด ไม่มีก็กู้ให้ได้ เรายังชมอยู่ในใจถึงความภักดีของแก แต่จนบัดนี้ หญิงบอกว่า ไม่เคยเห็นผอ.ไปเยี่ยม ไม่เคยโทรถาม หรือไม่เคยถามถึงเลย อ้าว แล้วนี่เราไปพาดพิงถึงคนอื่นๆทำไม ก็จะเขียนถึงครูอบไม่ใช่เรอะ