ในขณะที่สิ่งที่เราเห็นคือภาพความปรองดอง การออกมาบอกว่า
จะไม่แตะม.112 การออกมยืนยันความจงรักภักดี แต่เว็บหมิ่นเพิ่มมากขึ้นหยาบคายขึ้นใส่ร้ายมากขึ้น คำพูดบิดเบือนใส่ร้ายชนิดทีขนาดเป็นบุคคลธรรมดายังรับไม่ได้ ผมไม่ถามหรอกว่าเพราะอะไร
แต่ที่จะเล่าให้ฟังก็คือ ทุกครั้งที่มีการจับผู้หมิ่นเข้าคุกสื่อสุนัขรับใช้จะโทษ ม.112ทันที โดยไม่บอกว่าผู้หมิ่นนั้นใช้ทั้งวาจาจาบจ้วงหยาบถ่อยขนาดใหน รวมทั้งแสดงความเห็นใจผู้กระทำผิดแทนที่จะประณามผู้กระทำผิดและเห็นใจผู้ถูกกระทำผิด
นักวิชาการหัวหงอกหัวดำก็เอาจริงกับสิทธิเสรีภาพอย่างหน้าดำ
คร่ำเเครียดโดย(แกล้ง)ลืมความหมายของสิทธิและเสรีภาพที่ผมเคยท่องจำในสมัยเด็กๆในหนังสือหน้าที่พลเมืองว่าสิทธิและเสรีภาพต้องไม่ล่วงเกินสิทธิของผู้อื่น...นักวิชาการเหล่านี้ได้นำ
กรณี 6 ตุลากลับมาสร้างความแตกแยกอีกหนหนึ่ง
ในสิ่งที่ผมกล่าวมาก็คิดว่าเพื่อนๆคงจะรู้..เห็น..ในสิ่งที่ผมเล่า
เราอาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ก็จริง....แต่เราสามารถปลูก
ฝังทัศนคติ ความคิดให้แก่เด็กให้รู้จักคิดได้
ตัวอย่างที่ชัดๆก็คือเวลามีคนหมิ่นสถาบันพวกนักวิชาการและสื่อ
สุนัขรับใช้จะออกมาปกป้อง แต่ผู้อ่านข่าวท่านหนึ่งกล่าวถึงลูก
เจ้าของสื่อรายใหญ่คนหนึ่งว่า"สงสัย..พ่อแม่จะไม่สั่งสอน"เท่า
นั้นลูกเจ้าของสื่อถึงกับเต้นเป็นเจ้าเข้า แต่สิ่งที่พวกหมิ่นมัน
หมิ่นสถาบัน(ที่ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แก่มัน และโคตรเหง้าของมัน)
กล้าๆกลัวๆลอบกัดอยู่ทำไม...ออกมาวัดกันไปเลยว่าไอ้15ล้าน
เสียงน่ะ จะสู้กับประชาชนทั้งประเทศได้ใหม