เอาแค่ศิลปะเด็กก่อนนะครับ...เพราะเป็นประโยชน์กับครูด้วย
ผมคัดลอกมาเพราะขี้เกียจเขียนเองการดูงานศิลปะขึ้นอยู่ว่าเราชอบงานนั้นหรือไม่ถ้าเราชอบก็สวยสำหรับเรา แต่สำหรับคนอื่นอาจจะบอกว่าไม่สวยก็ได้ ซึ่งอันนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องมีความรู้เรื่องประวัตืศาสตร์ศิลป์ ประเภทของศิลป์และขยันดูงานศิลป์บ่อยๆ ก็เหมือนกับการดูส้มนั่นแหละ ถ้าเราไม่รู้สายพันธ์ุ ไม่รู้ปรนะเภทไม่ได้คัดส้มบ่อยๆ เราก็จะไม่รู้ว่าส้มชนิดใหนหวานไม่หวาน แต่บางคนพอเห็นส้มทาแล็คเกอร์ผิวมันสวยก็ว่าส้มนั้นดีทั้งๆที่มันเกิดจากแล็คเกอร์นั่นแหละ ถ้าให้ผมไปค้าส้มก็เจ้งเหมือนกัน
มาสดูศิลปะเด็กก่อน
ข้อ6.นี่สำคัญมากนะครับ แต่ผมเห็นครูฝึกเด็กเข้าประกวดจะใกห้ภาพตัวอย่างมาฝึกซ้ำๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดเวลาแข่งทั้งนั้น
"จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" (Imagination is more importany than Knowledge) (Einstein, 1879-1955) น่าจะยืนยันและให้ความหมายได้ดีว่า เรื่องราวความคิดในจินตนาการ อันบริสุทธิ์ของเด็กต่างหากที่น่าสนใจ มากกว่าฝีมือ ความชำนาญในเทคนิคและขั้นตอนการสร้างภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้ และแม้ว่าจะถูกฝึกฝนมาอย่างดีก็ตาม
ตัดสินอย่างไรว่าภาพไหนสวย กิจกรรมการประกวดวาดภาพและรางวัลนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ สำหรับศิลปะเด็ก แต่สามารถใช้เป็นเป็นกิจกรรมหนึ่ง (นอกเหนือจากกิจกรรมศิลปะในโรงเรียนที่ครูสามารถสร้างสรรค์ได้) ที่ใช้กระตุ้นการแสดงออกทางความคิดและจินตนาการของเด็กได้ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้กิจกรรมการประกวดเป็นไปเพื่อส่งเสริมทัศนคติที่ดีต่อศิลปะเด็ก ผู้เขียนจึงนำเสนอกรอบแนวคิด เกี่ยวกับเกณฑ์การตัดสินภาพวาด ดังนี้
1. ด้านเนื้อหาเรื่องราวของภาพ ควรให้ความสำคัญด้านเนื้อหาเรื่องราวของภาพอย่างมาก ซึ่งผลงานบางชิ้นอาจมีความคิดสร้างสรรค์ มีความสวยงาม มีเทคนิค ฝีมือดี แต่กลับถ่ายทอดเนื้อหาไม่ได้
2. ด้านความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ความคิดสร้างสรรค์ด้านเนื้อหา การใช้สี การจัดภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเป็นผลงานที่มีความโดดเด่น แตกต่างจากคนอื่นๆ ที่เคยมีมา
3. ด้านองค์ประกอบของภาพ ได้แก่
3.1 การร่างภาพ ได้แก่ความสามารถในการร่างภาพ ร่างรายละเอียดต่างๆ ของภาพ รวมทั้งการใช้เส้นที่แสดงออกอย่างมั่นใจ
3.2 การจัดภาพ ได้แก่ความสมดุลของภาพ (ซ้าย - ขวา/ บน- ล่าง) ความมีเอกภาพของภาพ ควบคุมได้ไม่กระจัดกระจายจนเกินไป และการเน้นจุดสนใจในภาพภาพ
3.3 ทักษะการใช้วัสดุ ได้แก่ความสามารถในการระบายสี
การเลือกใช้คู่สีได้สวย ความหลากหลายของสีในภาพ การแทนค่าสีอ่อน- แก่ อาจมีการระบายแสดงร่องรอยฝีแปรง (จังหวะ-ทิศทางเส้นสีที่ระบาย) แสดงถึงความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ซึ่งกรณีนี้มักจะเกิดกับเด็กเล็ก(อนุบาลถึง ป.3) มากกว่าเด็กโต
3.4 ความงามทางศิลปะ ได้แก่ ความกลมกลืนของเส้น สี พื้นผิว รูปร่าง
4. ด้านการเปรียบเทียบผลงานกับพัฒนาการการวาดภาพของเด็ก โดยพิจารณาว่าผลงานนั้น เหมาะสมเป็นไปตามพัฒนาการของเด็กหรือไม่
5. มีความมั่นใจในการแสดงออก โดยดูจากการร่างภาพที่ใช้เส้นแสดงออกถึงความมั่นใจ การระบายสีที่แสดงร่องรอยฝีแปรง เป็นต้น
6.ความบริสุทธิ์ของงานที่ปราศจากความคิดของผู้ใหญ่ชี้นำ ข้อนี้ สำคัญมากเพราะเด็กที่วาดภาพบางคนอาจจะคำนึงถึงคำชี้นำหรือการฝึกฝนจากครูหรือผู้ปกครองมาก ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีกับความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก เพราะเท่ากับเป็นการให้ผู้ใหญ่มาช่วยเติมแต่งความคิดของเด็ก ทำให้งานชิ้นนั้นเสียความบริสุทธิ์และคุณค่าของงานก็หายไปด้วย ดังนั้นในการพิจารณาผลงานศิลปะเด็ก ครูหรือผู้ปกครองจึงควรจะมีความละเอียด เพื่อให้ได้ผลงานที่ค่อนข้างมีความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาให้ได้มากที่สุด