วันนี้ผมเดินไปวัดซึ่งปกติจะขี่มอเตอไซด์ตลอด ไม่ว่าจะไปใหน การเดินทำให้ผมรู้สึกดีอยู่อย่างคือได้มีเวลากับอาคารเก่าๆ
บนถนนสายนี้มากขึ้น อาคารที่ป้าใต๊ขายขนมใข่เปลี่ยนเจ้าของไปแล้ว ผมมองดูถึงรู้สึกว่ามันพังทั้งหลัง ตอนนี้เขารื้อโครง
หลังคาออกหมด รวมทั้งโครงสร้างภายในบ้าน นี่คืออาคารเก่าที่หมดสภาพไป นักอนุรักษ์ นักวิชาการ นักพูด นักการเมือง
ท้องถิ่นหายไปหมด ทั้งที่เหตุเกิดตำตาแท้ๆ ีบ้านหนึ่งทีเหลือแต่หน้าบรรณเป็นไม้เอียงๆถล่มพังไปหมดแล้ว เหลือแต่
ป้ายประวัติบ้าน ผมนึกดีใจที่ภาพเก่าๆผมบันทึกไว้หมดแล้ว เพราะคิดว่าสักวันหนึ่งมันจะเป็นเช่นนี้ แล้วมันก็เป็นจริงๆ
ขากลับเดินกลับมา ได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านที่บ้านโภคบาล หลังจากที่ไม่ได้คุยกันเป็นเวลานาน รวมทั้งเพื่อนบ้านอีกคนที่ระบาย
ความรู้สึกที่ภายในบ้านแบ่งเป็นเหลืองกับแดง และลูกชายที่เป็นแดงเพราะเมียเป็นชาวสกลนคร ห้ามไม่ให้ ผู้ใหญ่ ดูช่องบลูสกาย
ผมก็รู้สึกว่า บางทีการเดินทำให้ผมได้รู้ได้สัมผัสอะไร อะไร หลายๆอย่างจากเพื่อนบ้าน ที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกัน และให้ความรู้สึก
ว่ามั่นใจในการเดินบนถนนสายนี้ตั้งแต่เล็กจนโต
ผมเติบโตขึ้นในขณะที่หลายๆสิ่งล่มสลายไป ทั้งๆที่มีเสียงของการอนุรักษ์เข้ามา แต่กลับทำให้ความเป็นริมน้ำนั้นล่มสลายลง
และถูกแทนที่ด้วยร้านอาหาร ถ้าใครเข้ามาตอนกลางคืน มันแทบจะเป็นย่านคนกลางคืนแทนอิสเทอร์นไปเลยทีเดียว
นี่ถ้าผมเปิดกิจการอาบอบนวด ขึ้นมามันจะสมบูรณ์แบบ ไปเลย นายใหญ่จะหุ้นกับผมใหม