นมแพะ

.......ผมเองเกือบจะเดินไม่ได้ เจ็บหัวเข่าทั้งสองข้าง ต้องใช้ข้อรัดเข่า เกือบจะต้องโทรหา Admin ว่าหมอกระดูกที่ไหนดีๆๆ

ให้แนะนำหน่อยผมจะไปรักษา ผมมาโคราชก็ขับรถไม่ได้ ปวดขาให้ลูกน้องขับมาส่ง น้ำหนักตัวผม 85 เกือบๆๆ 86 มาอยู่จัน

ทรมานมากทำเองทุกอย่าง ผมต้องปฏิบัติตัวใหม่ เช้ามา ตี่ 4.30 ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย ท่าเบาๆๆ หกโมงเช้า กินแอปเปิ้ล 2 -3 ลูก

สองโมงเช้า กินมูสลี่ กับงาดำ งาดำมีแคลเซี่ยมสูงมาก กว่านม 10 เท่าตัว เย็นไม่กินอาหาร ออกกำลังกายเบาๆๆ แล้วก็กิน แอ)เปิ้ล 2 ลูก

ตอนนี้น้ำหนักผมเหลือ 82 กิโลกรัม พอดีคุณ Gress คุณเกรส กับอาวรพล เจ้าของตึกมาเยื่ยมเยียนผม เห็นผมรัดข้อเข่า

เดินกระย่อง กระแย่ง บอกผมว่า

.....ให้กินนมแพะ...

แม่แกเดินไม่ได้ ต้องใช้วอคเกิ้ล กินนมแพะ ตอนนี้เดินได้ดีไม่ต้องใช้

วอคเกิ้ลแล้ว...อาการปวดเข่าผมทรมานมาก นอนก็ปวดจี๊ด ปวดเข้าไปในบล๊อคหัวเข่า แทบหมดกำลังใจ

.............จนคุณเกรด เอานมแพะมาให้ผมกิน ซื้อนะ เอามาจากมาเลเซีย เมืองไทยไม่มี แล้วก็แพะกินหญ้าที่เลี้ยงโดย ออแกนนิก

ไม่ใช้ยาฆ่าหญ้า...ผมกินได้ หนึ่งอาทิตย์แล้ว ตอนนี้นอน ไม่ปวดเข่าแล้ว เริ่มที่จะ เดินได้ดีขึ้น คุณเกรส บอกให้ผมกิน

............เช้าตี ห้า กิน 2 ห่อ ก่อนอาหาร การดูดซึมจะได้ดีขึ้น ตอนเย็นอีก 2 ซอง ผมเอาตัวผมเป็นหนูทดลอง ถ้าดีจริงๆๆ ผมจะรายงานให้ทราบ

ตอนนี้ คุณครูประทุม จิ๋มเล่าว่า เป็นโรคกระดูกเสื่อม ชักปวดเข่า เดินไม่ค่อยไหว จิ๋มแนะนำให้กินงาดำ โรยข้าว ลดน้ำหนักตัวเอง

..........ผมพยายามจะ ลดน้ำหนักให้ได้ 80 ก ก แล้วต่อไป ก็ให้ต่ำกว่า 80 ผมอยากไปหาตุ๋ยบ้าง คุยกับเพื่อนๆๆ บ้าง ให้ดีก่อน

เดินคล่องๆๆ ไม่ทรมานค่อยแวะไปหา นะครับ คิดถึงเพื่อนๆๆทุกคน.....ขอรักษาตัวเองก่อน

.........แสดงว่านมแพะ ดีกว่านมวัว ที่ฝรั่งตาน้ำข้าวหลอกให้เรากิน

จริงๆๆแล้ว ผมกินนมแพะมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ไม่ติดต่อ ผมเหลือจาก ที่จัน ติดตัวไปตลาดไทย 2 กล่อง

เพื่อนผมเป็น โรคภูมิแพ้ สามวันดี สี่วันไข้ อยู่ดีๆๆอากาศเปลี่ยนแปลงก็ ตัวร้อน ป่วยมาเฉยๆๆ ผมแนะนำให้กินนมแพะ

สองกล่อง แล้ว แกก็เข้า คูเกิ้ล สั่งมากินเอง ตอนนี้ ภูมิแพ้หายไปแล้ว ไปต้องกินยาหมอหลวงเป็นกำๆๆ

ทิ้งยาหมอหลวงไปเลย จริงๆๆนะที่เล่ามา จากเหตุการที่พบมาโดยตรง

.........ตอนนี้ พวกเรา ก็ใกล้ 60 เข้าไปแล้ว ถือว่าวัยชราแล้ว รักษาสุขภาพกันให้ดีนะครับ จะได้อยู่เห็นกันนานๆๆ

......เวลาสังสรรค์ มีเพื่อนๆๆถามผมว่าทำไมไม่กินเหล้า ผมต้องขอตัวนะครับ

......ผมเป็นเก๊า...

กินเหล้าเบียร์ไม่ได้

.........ต้องขอตัว กินแล้วปวดข้อทรมานมากนะครับ

เบื้องหลังความสำเร็จที่ได้มาก็คือการลงทุนด้วยสุขภาพนี่แหละ
โมทย์ก็เป็นเกาท์ เสี่ยหอมก็บอกว่าเป็น

ส่วนเรื่องกระดูกเสื่อมอย่าไปโทษเหล้าโทษเบียร์เลย(มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น)
เหมือนกับมะเร็ง คนไม่สูบบุหรี่ไม่กินเหล้า(อย่างผู้หญิง)ก็เห็นเป็นกันหลายคน
แต่ผมไม่เชื่อเรื่องดวงนะครับ

ที่เป็นบ้างไม่ไม่เป็นบ้าง มันขึ้นอยู่กับว่าเรารับสารพิษอะไรเข้าไปในแต่ละวัน
เช่นแวกซ์ส้ม สารเคมีในถั่วงอก สารกันบูดในอาหารสำเร็จรูป สารตะกั่วเวลารถ
ติดไฟแดงแล้วเราหายใจเข้าไป เพราะฉะนั้นมันขึ้นอยู่กับปริมาณสารพิษที่แต่
ละคนรับไป และร่างกายขับออกไม่เท่ากัน

ลงผลหน้าบ้านผมกินเหล้า สูบบุหรี่ ตายเมื่ออายุ 98 นี่เรื่องจริง

ตออีกนิดนะครับ

กรณีเสี่ยหอม...ผมในฐานะที่ผ่าข้อสะโพกมาก่อนถึง 3 ครั้ง วิเคราะห์ว่า

เกิดจากน้ำหนักตัว ต่อให้กินนมแพะอีกเป็นตัน ก็เพียงช่วยบรรเทา ส่วน
ที่จะเสริมให้แข็งแรงเหมือนเก่าก็ทำไม่ดีเหมือนตอนหนุ่มแล้ว
ก็ลดน้ำหนักตัว เอ้อ แล้วอย่าใช้เข่ามากนะครับ รู้สึกว่าเสี่ยหอมยังใช้เข่า
มากอยู่ (คงรู้นะครับว่าทำอะไรถึงใช้เข่ามาก)

ข้อ2 อันนี้หมอที่ผ่ากระดูกผมบอกว่า อยู่จันท์ไม่ต้องกินหร็อกอาหารเสริม
แคลเซียมเยอะ โดยเฉพาะก้างปลา ผมกินปลาสลิดประจำเคี้ยวก้างปลา
กรอบดี แคลเซียมเยอะ ผมกินปลาสลิดบ่อยมากถูกกว่านมแพะเยอ
เสี่ยลองหาดูว่าแคลเซียมจากธรรมชาติมีอะไรบ้างก็กินเข้าไป ส้มก็
วิตามินซีสูงนะครับ เลือกกินจากสวนที่เป็นธรรมชาติที่สุดลูกกระดำกระด่าง
ที่เสี่ยชอบคัดทิ้งนั่นแหละดี

ส่วนแคลเซียม ดี ที่เป็นเม็ดที่หมอให้มาผมไม่ได้กินนานแล้ว เพราะมันสร้าง
กระดูก ถ้ากินมากกระดูกจะโต

ส่วนที่ว่าทำไมไม่อกกำลังขี่จักรยาน
การขยับขาเยอะๆ วิ่งเยอะๆ กระดูกจะกดทับ และสึก
ผมจึงทำอะไรแบบสายกลาง ไม่มากไม่น้อย

ส่วนวิธีออกกำลังกายที่ดีที่สุดก็คือ การว่ายน้ำ
ตอนผมเดินไม่ได้ หมอแนะนำให้แกว่งขาในน้ำ
จนว่ายน้ำได้ ขาแข็งแรง อย่างอื่นก็แข็งด้วย

ข้อสดท้ายที่เขาบอกว่า อย่าทำงานหนักได้เงินมาก็เสียสุขภาพไป

ข้อนี้ ผมว่าไม่จริงเสมอไป นะครับ

เพราะถ้ามีเงิน เวลาป่วย เราก็ยังได้รับการดูแลดีกว่าคนไม่มีเงิน

คนจนคนรวย ป่วยได้เหมือนกันครับ

ข้อสำคัญที่สุดก็คือลดน้ำหนัก 58-60 กำลังดี ช่วยได้มาก

........คนที่เป็นเก๊า

ห้ามกินอาหารหลายอย่าง เช่น เครื่องใน สัตว์ปีก ยอดผัก หน่อไม้

.....เหล้า เบียร์ ทำให้การขับกรดยูริด ออกมาได้น้อย ถ้าลงไตเมื่อไรจบ ผมเป็นคนขี้โรคยอมรับ

มีหมออยู่คน ผมเคยไปรักษาหมอหนุ่ม มันบอกว่า เป็นตั้งหลายโรค น่าตายไปแล้ว ไม่น่ารอด

.....ต่อมาผมไม่เคยไปหาเลย ผมนึกในใจ ......ผมเคยอ่านหนังสือ

หมอปากหมา....

..แต่นี่ไม่ใช่ยิ่งกว่านั้น

ข้อสุดท้าย อันนี้เป็นเรื่องจิตวิทยา

การมีกำลังใจที่ดี การทำความดี และช่วยเหลือผู้อื่น จะช่วยได้มาก

ดูอย่างครูวสันต์ซิครับ อันนี้ผมพูดจริงๆนะ ผลจากความคิดดี ทำดี
แกยังแข็งแรง และทรนงได้อยู่่ทุกวันนี้

ส่วนผม อังคารนี้ไปหาหมอเช็คข้อสะโพกอีกแล้วครับ

อะไรจะเกิดขึ้น เราเองบางทีก็ควบคุมไม่ได้ เสี่ยหอมระมัดระวังไม่กินเหล้า
ยังเข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น

ผมกินเหล้ากับคอกหมูแค่นั้นเองครับ เวลาสังสันทน์ เลี้ยงรุ่นก็ไม่ได้ไป
ทั้งรุ่นมัธยม และวิทยาลัยครู

......ขอบคุณทุกความคิดเห็น....หมอก็บอกให้ขี่จักยาน ไม่ต้องฟิตเนสมาก มันเป็นการเบ่งเส้นเลือด

ตอนอยู่กรุงเทพ เพื่อนชอบพาไปกินอาหารตอนเย็น ขัดใจไม่ได้เลยต้องไป เรื่องว่ายน้ำ อีกหน่อย

คงต้องทำแบบตุ๋ยบ้าง เอาขาแกว่งน้ำและว่ายน้ำ

..........ตอนนี้ผมหยุดทุกอย่างแล้วครับ....ตอนนี้ยอมรับจริงๆๆว่า ขนาดเยี่ยว ยังรดกางเกง 55555

มันไม่พุ่งแบบแต่ก่อนแล้ว ยอมรับสภาพ....(เขียนได้ในคอกหมูในเฟสไม่กล้าแน่นอน)

.......ถามความรู้สึกเพื่อนๆๆทุกคนว่าเป็นอย่างไร เช่น โมทย์ ตุ๋ย นเรศ สันต์ และคนวัยเดียวกันอีกหลายคน

.........ยอมรับว่าครูวสันต์ยังแข็งแรงมาก.....ผมขี้โรคตั้งแต่เล็กๆๆ เป็น หือ หอบ ประจำ

ไม่ได้กินนมแม่ซักหยด ผมถึงต้องให้หลานเซเว่นกินนมแม่เยอะๆๆ นมผง ไม่แตะเลย สู้นมแม่ไม่ได้

...............ใครมีอะไรดีๆๆ แนะนำมาบ้าง เราคุยเรื่องสุขภาพแล้วตอนนี้.....

.........

.......กับเรื่อง วัด ธรรมมะ.....ดีกว่า ไม่มีใครใหญ่กว่าโลงแน่นอน นะครับ

ขอร่วมเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านครับ...การป่วยเจ็บเป็นธรรมชาติของชีวิต...สำหรับผมถ้ามองว่าเป็นเรื่องใหญ่มันก็ใหญ่...ถ้ามองว่าเป็นเรื่องธรรมดา มันก็ธรรมดา...สำหรับผมพื้นฐานชีวิตอยู่ที่เรื่องของอาหาร ออกกำลังกาย และการพักผ่อน ทั้งสามประการนี้ทำอย่างไรให้พอเหมาะพอดี นี่คือภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ...มีคำกล่าวที่ว่า กินอาหารเป็นยา มิใช่กินยาเป็นอาหาร ฯลฯ