PIGHOUSE THA-FORUM.NET
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

เพื่อนกันจนวันนี้
 
บ้านPortalGalleryLatest imagesค้นหาสมัครสมาชิก(Register)เข้าสู่ระบบ(Log in)

 

 บำเพ็ญทุกข์กริยา

Go down 
2 posters
ผู้ตั้งข้อความ
Admin
ผู้ดูเเลระบบ
ผู้ดูเเลระบบ
Admin


จำนวนข้อความ : 12377
Join date : 27/11/2010
Age : 68

บำเพ็ญทุกข์กริยา Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: บำเพ็ญทุกข์กริยา   บำเพ็ญทุกข์กริยา EmptyThu 03 Apr 2014, 7:15 am

ผมเอาข้อเขียนนี้มาจากเฟ้ซ ท่านผู้นี้เป็นคนที่(ผมคิดว่า)มีความรู้จริงท่านหนึ่ง นำมาเสนอท่านเรศ
พิจารณาครับ


วันนี้มีผู้ปฎิบัติธรรมมาปรึกษาเรื่องของการพิจารณาความเจ็บปวดทุกขเวทนาว่าจะทำอย่างไรถึงจะให้ตรงกับ โพชฌงค์ 7 ตามคำแนะนำของสถานปฎิบัติธรรมและการรักษาทางชีวจิตแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอเองกำลังจะพบกับความเจ็บปวดจากการผ่าตัดและไม่อยากใช้ยาหลังผ่าตัดตามคำแนะนำของสถานปฎิบัติธรรมนั้น

ผมได้ให้คำแนะนำไปว่า ตามปกติความเจ็บปวดนั้นแม้เราจะไม่พิจารณามันมันก็แทรกเข้ามาในจิตทุกสภาวะอยู่แล้ว ผมมีแต่แนะนำทุกคนให้ละเว้นการเอาแว่นขยายไปไปจับที่เวทนาที่บังเกิดขึ้น ให้รู้สึกเหมือนเด็กแรกเกิดที่ไม่รู้ถึงข้อแตกต่างของสุขทุกข์ที่เกิดขึ้น ให้รู้สึกเหมือนดูหนังใบ้ที่มีแต่ภาพไร้เสียง เพียงผ่านตาไปไร้การแปลไร้การรับรู้ไม่ต่างกับมองภาพผ่านหน้าต่างรถเท่านั้น

ความเจ็บปวด กับ ความอยากในกามราคะ มันคล้ายกันอย่างมาก แม้ไม่ไปพิจารณามัน มันก็ยังแทรกตัวเข้ามาในจิตจนบางคนนอนไม่หลับ ผมจึงมองไม่เห็นว่าจะไปเอาแว่นขยายไปจ่อมันทำไม เอาแค่รับรู้ว่ามันเจ็บปวดอยู่ มันอยากในกามราคะอยู่ เท่านั้นพอแล้ว ไม่ต้องเอาแว่นขยายไปจ่อมันก็เบ่งตัวจนใหญ่คับซอยในจิตอยู่แล้ว

คือรู้ว่าส้วมมันเหม็นก็ไม่จำเป็นต้องเอาจมูกไปจ่อที่โถส้วมพิจารณา ผมไม่ได้ปฎิเสธการรับรู้ ผมไม่ได้ปฎิเสธการพิจารณา แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการเอาใจไปจ่อที่เวทนาที่กำลังจะเข้าไปกอดกับจิต คือมันคนละอย่างนะ การพิจารณากับเอาใจไปจ่อที่ความเจ็บปวด มันไม่ใช่อย่างเดียวกัน

เรื่องสมาธินั้นถ้าจะพิจารณาตาม สมาธิสัมโพชฌงค์ ความมีใจตั้งมั่น จิตแน่วในอารมณ์ หมายถึงการรักษาสมาธิอันนิ่งแล้วให้คงอยู่ไม่ให้เลื่อนหลุดไปตามทุกข์เวทนาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ให้ตั้งสมาธิไปจดจ่อกับความเจ็บปวด ทำแบบนั้นแล้วเราจะมี ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ความสงบกายสงบใจได้อย่างไร เหมือนเอา สมาธิสัมโพชฌงค์ ไปฆ่า ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ซึ่งไม่ถูกต้องตามความหมายที่มีอยู่
ถ้าผมไม่ลืมผมจะอธิบายอีกครั้งว่าทำไม่ผมถึงลาก สมาธิสัมโพชฌงค์ ไปชนกัน ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ทำไมสมาธิไม่จับคู่กับ รูปราคะ อรูปราคะ กับอีกฝั่งเป็นปัสสัทธิต้องเป็น กามราคะ เรื่องนี้ยาวมาก แต่ให้รู้ไว้ง่ายๆว่าความเจ็บปวดกับความอยากในกามมันมีแอ็กชั่นกับจิตที่ใกล้กันมาก วันไหนว่างๆในห้องเรียนก็ช่วยเตือนผมด้วยว่าผมยังติดหนี้อธิบายเรื่องนี้อยู่

วิธีการพิจารณาเอาแว่นขยายไปจับที่ความเจ็บปวดวิธีนี้ครูบาอาจารย์พระป่าสายท่านอาจารย์มั่นได้ให้ความเห็นเอาไว้ว่าเป็นวิธีหักดิบวิ่งชน ถ้าไม่แกร่งจริงๆแล้วจะสู้มันไม่ได้ เพราะกว่ามันจะไร้พิษสงมาทำอะไรเราไม่ได้ มันจะเล่นงานเราจนอ่วมเสียก่อน คือมันจะเจ็บปวดมากจนถึงมากที่สุดจนแม้แต่ความเจ็บปวดเล็กน้อยมันจะถูกขยายจนมากเท่าภูเขาแล้วก็จะหลุดออกมาเหมือนเจ็บปวดหนักหนาสาหัสจนสลบไป หลังจากนั้นมันก็จะทำอะไรเราอีกไม่ได้แล้วคือเจ็บจนขาดใจแล้วก็ชาไปเอง แต่คนที่กล้าชนกับมันได้ถึงขนาดนั้นถ้าไม่ใช่ระดับครูบาอาจารย์หรือผู้ปฎิบัติะรรมอย่างเข้มแข็งจะหาคนผ่านจุดนั้นได้ยาก

แต่จะลองดูผมก็ไม่ห้ามหรอกนะครับ จะเอาแว่นขยายไปส่องความเจ็บปวดมันผมก็ไม่ห้าม
แต่ถ้าเป็นผมเองต้องสู้กับความเจ็บปวดหลังผ่าตัด ผมจะกินยาตามที่หมอบอก ผมจะให้หมออัดยาให้เต็มที่ แม้กระทั่งมอร์ฟีนในช่วงสองวันแรกผมก็แนะนำให้ลองเคลิ้มกับมันสักพัก เอาไว้สุขภาพพอไปไหวแล้วค่อยมาปฎิบัติธรรมอย่างมีจิตใจแจ่มใส นั่งขัดสมาธิแข็งแรงหลังตรงเหมือนทวนที่เสียบไว้บนรถศึกจะเหมาะกว่า

ผมจะบอกทุกคนบ่อยๆอยู่ว่าถ้าตอนลืมตาสุขน้อยกว่าตอนเริ่มหลับตา แสดงว่าการทำสมาธิครั้งนี้เสียเวลาเปล่า ถ้าครั้งหน้าก็ยังเป็นแบบนี้ก็เอาเวลาไปรดน้ำต้นไม้ให้ใจมีสุขดีกว่า แล้วค่อยหาช่องทางเหมาะๆตลบหลังเปิดศึกกับจิตใหม่อีกรอบ
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://pighouse.thai-forum.net
nares
สมาชิกคอกหมู
สมาชิกคอกหมู
nares


จำนวนข้อความ : 772
Join date : 30/10/2012
Age : 66

บำเพ็ญทุกข์กริยา Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: บำเพ็ญทุกข์กริยา   บำเพ็ญทุกข์กริยา EmptySat 05 Apr 2014, 5:19 pm

เท่าที่รับรู้มา...สมาธิวิปัสสนา มิใช่การทำให้หายจากความเจ็บปวด (เจ็บป่วย)ที่เป็นอยู่...เป็นเพียงกำหนดจิตรับรู้ว่าเราเจ็บปวดอยู่ตรงไหน เมื่อจิตรับรู้แล้ว (คือไม่ได้หนีความเจ็บปวดที่เป็นอยู่) เราก็ย้ายจิตไปพิจารณาปัญหาส่วนอื่นต่อไป...เหมือนกับการแยกกายกับใจ(จิต)ให้ชัดเจน ผู้รู้กล่าวว่ากายเขาก็อยู่ตามปกติของกาย ไม่มีปัญหา แต่ที่เราเจ็บปวดมากก็เพราะเราเอาจิตไปกังวล (วิตกไปต่างๆนานา)...มันเป็นเรื่องยาก ก็ต้องค่อยฝึกทำกันตามกำลังของแต่ละคน.....พูดง่ายๆก็คือ เราต้องยอมรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นว่าเป็นธรรมดาของสิ่งมีชีวิต ต้องอดทน และระวังอย่าให้จิตพลอยเจ็บไปด้วย....
เปรียบเทียบกับสิ่งของ เช่น บ้านพัง หรือทรัพย์สินเสียหายต่างๆ (ร่างกายเราไม่ได้เจ็บปวดเลย) ถ้าเข้าใจก็ปรับปรุงซ่อมแซมจัดหากันใหม่ แต่บางคนก็ยอมรับไม่ได้ คือจิตใจสูญเสียไปกับทรัพย์สินนั้น...เราอาจสูญเสียบุคคลนั้น มากกว่าทรัพย์สินที่เสียไปอีก...ดังนั้น เกิดอะไรขึ้นก็ต้องเข้าใจ และรักษาจิตใจของตนเอาไว้ไม่ให้เสียตามไปด้วยครับ.....
ขึ้นไปข้างบน Go down
Admin
ผู้ดูเเลระบบ
ผู้ดูเเลระบบ
Admin


จำนวนข้อความ : 12377
Join date : 27/11/2010
Age : 68

บำเพ็ญทุกข์กริยา Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: บำเพ็ญทุกข์กริยา   บำเพ็ญทุกข์กริยา EmptySun 06 Apr 2014, 6:20 pm

บำเพ็ญทุกข์กริยา 10836610
ขึ้นไปข้างบน Go down
https://pighouse.thai-forum.net
nares
สมาชิกคอกหมู
สมาชิกคอกหมู
nares


จำนวนข้อความ : 772
Join date : 30/10/2012
Age : 66

บำเพ็ญทุกข์กริยา Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: Re: บำเพ็ญทุกข์กริยา   บำเพ็ญทุกข์กริยา EmptyTue 08 Apr 2014, 1:41 pm

ทางโลก มีแต่จะนำเข้า....ทางธรรม มีแต่จะนำออก...เขาว่าไว้น่ะครับ
ขึ้นไปข้างบน Go down
 
บำเพ็ญทุกข์กริยา
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
PIGHOUSE THA-FORUM.NET :: ห้องนั่งเล่น :: ห้องพระ-
ไปที่: