......ในสมัยก่อนในกรุงเทพประมาณพ.ศ. 2500 - 2518 มีตลาดในกรุงเทพ ที่รู้จักกันก็มี
ปากคลองตลาด กับ ตลาดมหานาค ที่มีคนจีน พายเรือขายผักและผลไม้ คนไทยยังไม่รู้จักการค้าขาย
การค้าจะอยู่ในมือคนจีน ฅนไทยชอบให้ลูกหลานรับราชการ จะได้เป็นเจ้าคนนายคน ต่อมาความเจริญๆขึ้น
ตลาดสองตลาดนี้แออัด ที่ไม่พอค้าขาย รถไม่พอจอด เถ้าแก่เกิ๋ยง ให้ผมติดรถไป ขึ้นผลไม้ หาที่จอดยากมาก
ต้องมีที่ประจำ ทางสมัยก่อน จากโคราชไปกรุงเทพก็มีแค่ 2 เลนทางแคบมาก จะมีเจ้าพ่อคอยโบกรถเรียกเก็บเงิน
20 บาทถ้าแซงทางโค้ง หรือแซงในที่คับขัน ต่อมาประมาณปี2525 ก็มีตลาดสี่มุมเมืองเกิดขึ้น ใหญ่มากเนื้อที่เป็น 100ไร่
ทีแรกผมคิดว่าเป็น ของรัฐ ของ อ.ต.ก. ทีไหนได้เป็นของเอกชน ตลาดคึกคักมาก ตอนเกิดใหม่ ใครเอาของไปขาย
ให้ขายฟรี มีหนังให้ดู มีเงินแจก 10 ล้อเข้าไปขายผักจะได้คันละพันบาท พ่อค้าแม่ค้า เกิดใหม่ เฮโลพากันไปจับจอง
ต่อมาพอตลาดติด เริ่มมีการเก็บเงิน ค่าแป๊ะเจี๊ยะ ประมูล เก็บค่าแผงรายปี รถเข้ามาชายผลไม้ ปิ๊กอับ คันละร้อย หกล้อ 150
10ล้อ 200 ต่อคัน พ่อค้าแม่ค้าเริ่มรู้ตัวว่าโดนขูดรีด หาได้เท่าไรให้ตลาดหมด เหมือน การทำนาบนหลังคน รีด และไถ
2527 เถ้าแก่ผมกำลังจะย้ายฐานไปสี่มุมเมือง พอดีครอบครัวเกิดการแตกแยก เลยต้องเลิกไปโดยปริยาย
........คนในตลาดสี่มุมเริ่มหาทางออก พอดีมีตลาดไทยเกิดมาใหม่ ให้ทางเลือกใหม่ พ่อค้า แม่ค้า ก็เฮโลมาตลาดไทย
เหมือนหนีเสือปะจรเข้ แล้วจะเล่าให้ฟัง
..........ตอนนี้ แม่ค้าในตลาดเพื่อนผม บอกว่า เบิกเงินมา ล้านสี่แสน ตอนนี้เหลือแค่ สองแสน ตลาดไทย ไม่ใช่ของคนไทยแล้ว
โดนเทคโอเวอร์ ไปเป็นของฝรั่งชาวออสเตรเลียไปแล้ว มันขูดรีดยิ่งกว่าเก่า......โชคดีที่ผมไม่ได้อยู่ตลาดไท