หลังจากที่ตุ้มเสียราวปีนึงเพื่อนบ้านผมคนนึงก็เสีย.....และวันนี้เองก็ได้ช่าวว่า เพื่อนบ้านอีกคนนึงก็เสีย ทั้ง3คนนี้เป็นมะเร็งพร้อมๆกัน และตายไร่เรี่ยกัน แม้ว่าจะมีข่าวมากมายว่า หมอที่โน่นรักษาได้ หมอที่นี่รักษาได้ ที่นั่นมียาดีผมไม่เชื่อและไม่เคยเชื่อมานานแล้ว...การที่บางคนบังเอิญหาย ก็เป็นเพราะหลายๆสาเหตุแต่ไม่ใช่ปาฏิหารย์แน่นอน
สิ่งที่เป็นกฏเกณฑ์หรือความแน่นอนที่สุดก็คือความตายนี่แหละ....
ในอนาคตผม(แอบ)เชื่อว่า ถ้าน้ำไม่ท่วมโลกหรือเกิดสงครามนิวเคลียส์เสียก่อน หากมนุษย์เอาชนะความตายได้..ศาสนาก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป เชื่อหรือไม่ว่า นักวิทยาศาสตร์หรือนายแพทย์หลายต่อหลายคน ไม่เชื่อเรื่องชาติหน้าหร็อก แต่ถึงอย่างไรถ้าไม่มีชาติหน้าจริงๆเราก็ยังควรที่จะทำความดีอยู่ เพราะความดีก่อให้เกิดความ
สุขเห็นๆในชาตินี้ ความดีช่วยให้คนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ความดีจึงเอาชนะวิทยาศาสตร์ได้
หลายๆคน(รวมทั้งผม)มักจะยึดและเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น นั่นก็เพราะว่าจิตใจของของเราอ่อนแอ และถูกสั่งสอนตั้งแต่เด็กให้..เชื่อ..และ..ทำ..ตามที่ได้รับการปลูกฝังมาจนยากทีจะดื้ดึง
ชีวิตทั้งของเสี่ยหอมและเสี่ยโมทย์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตาหรือฟ้าลิขิตหร็อก แต่ขึ้นอยู่กับ 1 สมอง 2 มือ 2
เท้าที่ดลบันดาลให้เกิดความสำเร็จในชีวิต
มนุษย์เอาชนะทุกอย่างได้ แต่ยังพ่ายแพ้ต่อธรรมชาติ และความตาย มนุษย์จึงยังต้องพึ่งสิ่งที่มองไม่เห็น
แต่มนุษย์ไม่รู้หร็อกว่าการเกิดภัยพิบัติทุกๆอย่างในเวลานี้ก็เป็นเพราะมนุษย์เองที่ทำลายธรรมชาติซึ่ง
เป็นผู้ค้มครองมนุษย์มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ เรียกว่าความอกตัญญู
เพราะฉะนั้นความกตัญญูจึงอยู่เหนือวิทยาศาสตร์