โหมโรงการชดเชยแสง

เปิดฟอรั่มนี้ให้อ.ปราโมทย์มาให้ความรู้เรื่องกล้องกันนะครับ เห็นว่าเขียนได้เข้าใจง่าย
สำหรับสมาชิกทุกคนที่อยากถ่ายภาพได้สวยๆนะครับ

ตอนแรกเป็นเรื่องการชดเชยแสง




ตามตำรา....ที่อาจารย์โมทย์ สั่งสอน
ตั้งค่าISO 800 -1สตอป ค่าสปีดชัตเตอร์ อัตโนมัต ตอนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า

ถ้าต้องการให้ตึกดำกว่านี้ ดำจนไม่เห็นรายระเอียดอะไรเลย ก็ชดเชยแสงทาง ลบเพิ่มอีดครับ ตึกก็จะยิ่งดำมากขึ้น แต่แสงของดวงอาทิตย์ก็จะยิ่งมืดหรือคล้ำลงอีก อันนี้นี่แหละครับ ที่เขาไปรีทัช หรือตกแต่งภาพ โดยทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้น อาจทำให้เป็นสีเหลืองอมส้ม หรือส้มอมแดง (ทำให้สว่างเฉพาะท้องฟ้านะครับ ส่วนฉากหน้าถ้าถ่ายมาไม่ดำ ก็ทำให้มันดำเป็นถ่าน อย่างที่เราเคยเห็นกันเป็นประจำนั่นแหละครับ) กราชดเชยแสงแบบนี้มีสองกรณีครับ กรณีแรกก็คือภาพนี้แหละครับฉากหน้าดำ อีกกรณีหนึ่ง การถ่ายย้อนแสง แต่ไม่ต้องการให้ฉากหน้าดำจนไม่เห็นรายระเอียด แบบนี้เราต้องชดเชยแสงทางบวกครับ ผลจะทำไห้เรามองเห็นรายระเอียดของฉากหน้าบ้าง จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่ที่เราชดแสงกี่สตอปครับ อันนี้ก็แล้วแต่ผูุ้่ายครับว่าต้องการให้เห็นรายระเอียดมากน้อยเพียงใด ผลอีกหย่างหนึ่งที่ตามมาคือท้องฟ้าจะสว่างขึ้น ตามค่าการชดเชยแสงขอรับ เวลาจะถ่ายเราก็ต้องวางแผนก่อนว่าจะไห้ภาพที่จะถ่ายออกมาเป็นแบบใหนนะครัย เพราะฉะนั้นต้องคิดก่อนถ่ายเสมอนะขอรับ

หนังสือที่ว่า ซึ่งเกี่ยวกับการถ่ายภาพ การรีทัชภาพ ออกเดือนระเล่ม รู้สึกว่าราคาขายประมาณ 80บาทครับ ชื่อหนังสือครับ ON Camera มีขายตามแผงหนังสือทั่วไปครับ และสำหรับผู้ที่ใช้กล้องคอมแพคอยู่ ก็มีหนังสือแนะนำเทคนิคการใช้กล้องคอมแพคอยู่ 2 เล่มครับ ซึ่งผู้เขียนก็เป็นเจ้าของรายการ Photo Sfory ทางช่อง3 และเป็นเจ้าของร้าน Photo Shop(ร้านขายกล้อง ทั่วประเทศครับ) หนังสือที่ว่า มีขายตามร้าน Book Center ดอกหญ้า B2S ครับ ลองไปหาดูอาจจะยังพอมีเหลือ เล่ม1 หน้าปกจะเป็น สีแดงปนขาว เล่ม2 จะเป็นสีเขียวปนขาวครับ แต่ที่สำคัญผมลืมชื่อหนังสือไปแล้วซิครับ ไว้จะไปค้นหามาให้ครับ เป็นหนังสือที่เขียนอธิบายเทคนิคการถ่ายภาพด้วยกล้องคอมแพค เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้จริง ใครใช้กล้องคอมแพคอยู่ สนใจก็ลองไปหาซื้อมาอ่านได้นะครับ ราคาก็ไม่แพงครับ

การถ่ายแบบหน้าชัด หลังเบลอ (ชัดลึกชัดตื้น)


แนะนำการถ่ายภาพนี้ให้ดูง่ายสักหน่อยนะครับ ลองไปถ่ายดูนะครับ ภาพนี้ สห. ต้องการถ่ายให้หน้าชัด และหลังเบลอใช่ไหมครับ เทคนิคการถ่ายครับ มาทำความเข้าใจกับรูรับแสงก่อนนะครับ หลักมีอยู่ว่า รูรับแสงยิ่งกว้าง ความชัดของภาพยิ่งตื่น 1 แล้วนะครับ 2 รูรับแสงยิ่งแคบ ความชัดของภาพยิ่งลึกครับ หลักการนี้แหละครับที่เราจะนำไปประยุคต์ถ่ายภาพให้แบลคหลังเบอร์กระจาย ทำความเข้าใจกับรูรับแสงหน่อยครับ(F Stop) ตัวเลขรูรับแสงยิ่งมากหรือF Stop ยิ่งมาก(ตัวเลขมาก) ความชัดลึกยิ่งมาก คือชัดตั้งแต่ฉากหน้า จนถึงด้านหลัง เลนส์บางต้วทำ FStopได้ถึง 22 32 ทีเดียว ส่วนF Stop ยิ่งน้อย ความชัดลึกยิ่งน้อย เลนส์บางตัว ทำ F Stop ได้ถึง 2.8 บางตัวทำได้ถึง 1.8 (คือเปิดให้แสงผ่านเข้ามาได้มาก ข้อเสีย F Stop ยิ่งมากราคายิ่งแพงครับ เอาหลักการแค่นี้ก่อนนะครับ วิธีถ่าย อ่านต่อด้านล่างนะครับ

เทคนิคการถ่ายครับ จะเป็นกล้องคอมแพคหรือกล้อง DSLR ก็ได้ ให้เข้าไปที่โหมด A เลยครับ เพราะโหมดนี้ เราจะเป็นคนตั้งรูรับแสงเอง ส่วนจะต้ังกว้างเท่าไร(ตัวเลขF น้อย)ก็ขึ้นอยู่กับผู้ถ่ายว่าจะชอบชัดตื่นเท่าไหร่(เบลอเท่าไหร่นั่นเอง) ส่วนกล้องจะเป็นตัวคำนวนความเร็วชัตเตอร์(Speed Shutter)ให้เองอัตโนมัติ

สิ่งที่ควรคำนึก ระลึกถึง หรือวางแผนในการถ่ายเสมอๆ คือ
1 การโฟกัสและการวัดแสง เราควรโฟกัสและวัดแสง อย่างรูปข้างบน ที่ดอกไม้(เน้น ที่เกษร แต่ดอกไม้ในพวงมีหลายดอก อย่าเน้นทุกดอก เพราะจะทำให้ภาพมันเฉือยๆ ไม่น่าสนใจ เลือกเอาสักดอกในพวง หรือเป็นกลุ่มสัก 2-3 ดอกก็ได้ถ้าเรามั่นใจไม่หลุดโฟกัส เพราะดอกหรือกลุ่มที่เราเลือกจะชัดที่สุดในภาพ เด่น เป็นที่น่าสนใจ เพราะดอกอื่ๆหรือกลุ่มอื่นๆ ที่เราไม่ได้โฟกัส จะเบลอไม่ชัด ฉากหน้าและฉากหลังก็จะหลุดโฟกัสเบลอ ทำให้ดอกที่เราโฟกัสเด่น น่าสนใจขึ้น

2 ก่อนถ่ายควรเดินดูมุมกล้องสักหน่อย ว่า แสงตกลงกระทบดอกไม้ และเงา มุมใหนสวยดี (ผลของแสง เงา จะทำไห้ดอกไม้มีมิติเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่แบนเป็นสองมิติ เหมือนคนทั่วๆไปถ่ายครับ) พยาหามุมกล้องแปลกๆที่ไม่เหมือนชาวบ้านเขาถ่ายกัน ไม่งั้น ภาพของเราก็จะเหมือนสายตาที่ชาวบ้านเขาเห็นกัน ถึงจะถ่ายมาดี แต่ความรู้สึกก็จะไม่ตื่นเต้น เพราะก็จะเหมือนกับภาพของคนทั่วไปถ่ายกัน

3 เทคนิคการวัดแสง เราโฟกัสไปที่ดอกที่เราสนใจจะถ่าย กล้องทั่วไปก็ให้กดชัตเตอร์ลงไปครึ่งนึง เมื่อวัดโฟกัสได้แล้ว ก็จะเป็นการวัดแสงด้วย กดไว้อย่างนั้นอย่าปล่อยนิ้ออก แล้วทำการจัดมุมภาพให้สวยงาม แล้วทำการกดชัตเตอร์ลงให้สุดเป็นการถ่ายภาพเสร็จ
4 สิ่งที่ควรคำนึงก่อนถ่ายอีกหย่าง ให้เราดูจุดที่เราจะถ่ายว่า เราถ่ายย้อนแสงหรือเปล่า เช่นเรายืนอยู่ใต้ต้นไม้ มองออกไปหลังดอกไม้ เป็นท้องฟ้า หรือเป็นบรรยากาศที่แสงขาวโปดเลย อันนี้ก็เรียกว่าเป็นการถ่ายภาพย้อนแสงเหมือนกัน ผล ดอกไม้ก็จะมืดดำ เหมือนถ่ายภาพย้อนแสง ถึงจะช่วยชดเชยแสงทาง + สัก 2-3 สตอป ทำไห้เห็นรายระเอียดของดอกไม้จริง แต่สีของดอกไม้ก็จะจืดชืด ถึงจะถ่ายได้เด่นก็จะไม่สวย วิธีแก้ ก็เข้าไปที่โหมด วัดแสงครับ จัดการให้มันสั่งให้กล้องวัดแสงเน้นหนักตรงกลางครับ ซึ่งกล้องมันจะวัดแสงเฉพาะตรงกลางภาพอย่าเดียว จะไม่เอาแสงฉากหลัง ฉากหน้า มาคำนวนเฉลี่ยทั้งภาพ จึงทำให้ดอกไม้แสงพอดี ผล ดอกไม้ที่เราต้องการเสนอ จะชัด แสงพอดี และสีดอกไม้จะเข้มสมจริง หรืออาจฉูดฉาดขึ้น

5 การถ่ายภาพแบบนี้สิ่งที่สำคัญมากๆๆๆๆ ขาตั้งกล้องครับ เพราะว่าเราแทบไม่รู้เลยว่า กล้องตั้งความเร็วให้เราเท่าไร ถ้าความเร็วช้าก็อาจทำไห้ภาพสั่นไหวตามแรงที่เรากดชัตเตอร์ได้ครับ ถ้ายังไม่มีจริงๆ ก็พยามกดให้ชัตเตอร์ ถือกล้อง ให้นิ่งที่สุดครับ

6 กล้องคอมแพคถ้าไม่มีโหมดนี้ ก็เข้าไปที่โหมด Macro และไปตั้งค่าวัดแสงตรงกลางเหมือนกันก็ได้ครับ และยิ่งเป็นโหมด มาโคร ขาตั้งกล้องยิ่งสำคัญไปใหญ่เลยครับครับเท่าที่นึกได้ของการถ่ายภาพประเภทนี้ ก็คงมีเท่านี้ก่อนนะครับ ไว้นึกอะไรออกเพิ่มเติม จะนำมาลงให้ได้ไปทดลองกัน
ครับก็ลองเอาไปใช้ดู ใช้ทดลองถ่ายดูหาความชำนาญกัน อ่านอย่างเดียว ไม่ลงมือ ก็ไม่มีประโยชน์ครับ และถ้าสนใส อยากเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ก็แนะนำมากันได้นะครับ นี่ขนาด Trip เดียวยังยืดยาวขนาดนี้ กลัวเพื่อนๆจะขี้เกียจอ่านเสียก่อนซิครับ โดยเฉพาะท่าน ผอ. ที่ชอบสั้นๆ ฮ่า...........

.....ดีครับ....อ่านแล้วเข้าใจง่าย
ไม่เข้าใจก็อ่าน ซ้ำๆหลายๆที......แล้วนำไปปฎิบัติ

......ผมก็ชอบภาพนี้......ช่วยกันโหมโลง

การถ่ายน้ำตก

ภาพชุดน้ำตก ถ่ายได้มุมมองน่าสนใจหลายภาพเลยครับ ที่นี้จุดประสงค์ของการถ่ายภาพน้ำตกมีหลักใหญ่ๆอยู่ 2 ประการครับคือ

1 ต้องการถ่ายสายน้ำตก ที่ตกลงมาหรือตกลงมาแล้ว กระทบกับหินหรือแอ่งน้ำด้านล่างเป็นเม็ดน้ำกระจาย และมีละอองน้ำฟุ้งกระจายใช่ใหมครับ

ประการที่ 2 ต้องการถ่ายให้เห็นน้ำตกไหลเป็นสายแบบต่อเนื่องใช่ใหมครับ ก็ไม่ยากอะไร เราจะใช้โหมดสร้างสรรคถาพอยู่โหมดหนึ่งครับคือโหมดควบคุมสปีดชัตเตอร์ (เราจะเป็นคนควบคุมหรือตั้งความเร็วชัตเตอร์เอง ส่วนกล้อง จะเป็นผู้เปิดรูรับแสงให้เราเอง) ทีนี้ถ้าเราต้องการถ่ายให้เห็นน้ำตกเป็นเม็ด หรือตกลงมา กระทบกับก้อนหินน้ำ้แตกเป็นเม็ดๆกระจาย เราก็ตั้งสปีดชัตเตอร์ให้สูงๆไว้ เพื่อหยุดเม็ดน้ำมให้นิ่งเป็นเม็ดๆไว้ครับ

ส่วนการถ่ายมให้น้ำตกใหลเป็นสายแบบนุ่มนวล เราก็ต้องตั้งสปีดชัตเตอร์ให้ช้าเข้าไว้ ยิ่งสปีดชัตเตอร์ช้าเท่าไร สายน้ำตกก็จะไหลเป็นสายแบบนุ่มนวลมากเท่านั้นครัย ข้อควรระวังการใช้สปีดที่ช้าขนาดนั้นถ้าไม่มีขาตั้งกล้องจะถ่ายยากมากเลยครัย เพราะภาพจะสั่นไหว ไม่ชัดครับ ไอ้โหมดที่ส่านี่ก็คือโหมด TV ครับ

โหมโรง..................ดีกว่า โหมโลง.............

.......แล้วจะนำไปลองทำดู น้ำตกอยู่ใกล้ๆติดแอร์เย็นฉ่ำ..

ภาพดอกหงอนไก่โรจน์ถ่ายเองหรือเปล่าถ้าถ่ายเองจะช่วยวิจารณ์ ถ้าเป็นภาพคนอื่นไม่แสดงความเห็นครับ

.......ภาพที่ผมลงถ่ายเองทุกภาพครับ
.........เห็นก็ถ่าย...สวยไม่สวยก็ถ่ายไปก่อน
ติเพื่อก่อ.....วิจารได้เต็มที่ ถ่ายที่บ้านประทับใจเวลาประมาณ
11โมงเช้า....แสงแทงลงมาบน...ดอกหงอนไก่ใช้โหมดมาโครครับผ้ม

ลองดูอีกรูป...หงอนไก่อยู่สูง ถ่ายทแยงขึ้นไปข้างบนภาพครับ
จับมาได้2ภาพ....ครับผ้ม...

สัน พิมพ์ว่า:

ภาพดอกหงอนไก่โรจน์ถ่ายเองหรือเปล่าถ้าถ่ายเองจะช่วยวิจารณ์ ถ้าเป็นภาพคนอื่นไม่แสดงความเห็นครับ

...ถ่ายเองคราบ.....รอคำวิจารณ์อยู่หลายเพ-ลาแล้ว